SHORT CUT
Meta ชู โซลูชัน AI สำหรับธุรกิจ เสริมพลังเศรษฐกิจดิจิทัล ให้เติมโตมากขึ้น มั่นใจสิ้นปี 2567 จะมีคนใช้ AI ที่พัฒนามากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน ซึ่งเวลานี้ การลงทุนด้าน AI ของ Meta นั้น กำลังปฏิวัติวิธีการที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.27 พันล้านคนบนแพลตฟอร์ม
งาน Meta Marketing Summit ประจำปี Meta นำเสนอนวัตกรรมด้านการตลาดล่าสุดสำหรับธุรกิจไทย ผู้ประกอบการและนักการตลาดและตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเสริมพลังให้กับธุรกิจไทยด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจและสร้างการเติบโตพร้อมยกระดับพลังเศรษฐกิจไทยบนเวทีโลก
การลงทุนด้าน AI ของ Meta กำลังปฏิวัติวิธีการที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.27 พันล้านคนบนแพลตฟอร์มปัจจุบัน Meta ลงทุนไปแล้ว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ทั่วทั้งบริษัท โดย 81% ของการลงทุนนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงแอปพลิเคชันหลัก ซึ่งรวมถึง Facebook, Instagram และ Messenger ตลอดจนบริการอื่นๆ สำหรับผู้ใช้งาน ครีเอเตอร์ และธุรกิจต่างๆ
ในงานประจำปีด้านการตลาดของ Meta ได้โชว์เคสชุดโซลูชัน AI ล่าสุดสำหรับภาคธุรกิจ นำโดย Meta Advantage+ ชุดเครื่องมือด้านการตลาดที่ครอบคลุม ออกแบบมาเพื่อเสริมพลังให้กับธุรกิจทุกขนาด ด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ปรับแต่งเฉพาะ เช่น Advantage+ Shopping Campaigns หรือ Advantage Apps+ Campaigns บริการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาพร้อมทั้งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้านโฆษณา (ROAS) ที่สูงขึ้น โดยนำระบบ AI เข้ามาใช้ตั้งแต่การระบุกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการปรับปรุงกระบวนการเชิงกลยุทธ์ การวางตำแหน่งโฆษณา และการทำความเข้าใจเส้นทางของผู้บริโภค Meta Advantage ช่วยเสริมพลังให้กับธุรกิจด้วยการปรับปรุงที่วัดผลได้
ประสิทธิภาพจากการใช้งาน Meta Advantage+ สร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นให้กับธุรกิจ: Advantage+ Shopping Campaigns ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) ถึง 32% และสำหรับโซลูชัน Advantage+ app campaigns ผลศึกษาชี้ว่าช่วยลดต้นทุนต่อการดำเนินการ (cost per action) ลงกว่า 9% นอกจากนั้น ยังพบว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้จ่ายใน Advantage+ Shopping Campaigns สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 4.52 ดอลลาร์สหรัฐกลับคืนมาให้กับธุรกิจ หรือคิดเป็นสัดส่วนของ ROAS ที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ในช่วงปีที่ผ่านมา
การสร้างชิ้นงานโฆษณา (creative) นับเป็นกลยุทธ์สำคัญยิ่ง ในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและมีส่วนในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นผู้ซื้อ (conversion) Meta ได้เปิดตัวการอัปเดตที่น่าสนใจหลายอย่างสำหรับชุดบริการและเครื่องมือ Advantage+ Creative ซึ่งรวมถึง Meta Gen AI ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการเวลา ทรัพยากร และประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยเครื่องมือ Meta Gen AI นักสร้างสรรค์สามารถออกแบบเนื้อหาโฆษณาที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายและสร้างรูปแบบโฆษณาที่แตกต่างกันให้เหมาะสมกับความชอบของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
การสร้างภาพแบบเต็มรูปแบบ (Full image generation) ที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลงานต้นฉบับของตนเอง และ AI จะช่วยสร้างภาพที่หลากหลายในรูปแบบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนพื้นหลังหรือการแสดงมุมมองใหม่ๆ
การสร้างข้อความ (Text generation) ที่ผู้ใช้สามารถสร้างตัวเลือกหัวข้อเรื่องและข้อความหลักได้ในทันที
การขยายภาพ (Image expansion) ที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพที่มีขนาดใดก็ได้ และ AI จะช่วยขยายภาพให้พอดีกับรูปแบบแนวตั้ง เช่น 9:16 ซึ่งเหมาะสําหรับ Stories และ Reels บนอุปกรณ์มือถือ
คุณแพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยรูปแบบกระบวนการสร้างสรรค์แบบอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ธุรกิจสามารถสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและเพิ่มอัตราการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นผู้ซื้อ จึงช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร ทำให้ Meta เป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสร้างสรรค์อันทรงพลังและโซลูชันที่สร้างผลลัพธ์ได้จริง"
"เครื่องมือและนวัตกรรมเพื่อการค้นพบ (discovery engine) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเราได้พลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง เครื่องมือด้าน AI ของ Meta ตั้งแต่แชทบอท AI ที่สามารถฝึกฝนได้สำหรับการส่งข้อความทางธุรกิจ ไปจนถึงผู้ช่วยเสมือนฟรีที่สามารถถามคำถามเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ให้บริการผ่านชุดเครื่องมือ Meta Advantage+ ของเรา มุ่งสร้างการเชื่อมต่อเชิงลึกและมีความหมายมากขึ้นผ่านการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม" คุณแพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าว
Meta Llama 3.1 (ลาม่า) เวอร์ชันล่าสุดของ AI แบบโอเพ่นซอร์สของ Meta มีทิศทางที่จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากโมเดลประมวลผลด้วยภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ล่าสุดเพิ่มการรองรับภาษาไทย มอบความยืดหยุ่น การควบคุม และความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับนักพัฒนาในประเทศไทย
ดร. ราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงแผนการของ Meta สำหรับ Llama 3.1 ในประเทศไทยว่า "Llama 3.1 เวอร์ชันล่าสุดของเรากำลังยกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับโมเดล AI ที่เปิดให้ใช้งานได้อย่างอิสระ ซึ่งทั้งหมดนี้รองรับภาษาไทยแล้ว การเปิดให้โมเดลของเราเป็นโอเพ่นซอร์สทำให้นักพัฒนาทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในประเทศไทย สามารถพัฒนานวัตกรรมและแอปพลิเคชันได้อีกมากมาย ซึ่งพิสูจน์ได้จากตั้งแต่การเปิดตัว Llama รุ่นแรกเมื่อปีที่แล้ว มียอดดาวน์โหลดกว่า 300 ล้านครั้ง และมีโมเดลถูกพัฒนาต่อยอดมากว่า 20,000 โมเดล เราเชื่อว่า AI มีศักยภาพมากกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่อื่นๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ รวมถึงเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ช่วยปลดล็อกความก้าวหน้าสำหรับธุรกิจและชุมชนทั่วโลกและในประเทศไทย"
เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกของ Meta Llama ให้มากยิ่งขึ้น Meta ได้จัดแคมเปญและโครงการต่างๆ ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาและชุมชนผู้ใช้ Llama ประกอบด้วยโครงการให้ความรู้ด้าน AI สำหรับธุรกิจท้องถิ่น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายธุรกิจ, เงินทุนสนับสนุนเพื่อสร้างประโยชน์สู่สังคม มูลค่าสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, การแข่งขันสำหรับนักพัฒนา Llama ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยผู้เข้าร่วมมีโอกาสชิงเงินทุนสนับสนุนพิเศษมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำโครงการที่ใช้ AI เพื่อสังคมไปสู่การใช้งานจริง
นอกเหนือจากการนำเสนอโซลูชัน AI ที่ล้ำสมัยแล้ว Meta ยังมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนวาระแห่งชาติของไทยเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์ (Economic Soft Power) ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ Meta จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อเสริมพลังให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการทำความเข้าใจเส้นทางความสนใจของผู้บริโภค นอกจากนี้ Meta ยังประกาศเปิดตัว "คู่มือการท่องเที่ยว" (Travel Playbook) ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งจะมอบข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดคู่มือท่องเที่ยวได้จากช่องบรอดแคสสำหรับธุรกิจ “Meta Thailand for Business” ของเพจ Meta Thailand ที่ https://m.me/j/Abb33bI6aY9FYiBx/ หรือผ่านทางเพจพันธมิตรได้ที่นี่
นอกเหนือจากความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยวแล้ว Meta ยังร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ของไทยในการปลดล็อกการค้าข้ามพรมแดนให้กับธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการเจาะตลาดใหม่ๆ และสร้างการเติบโตได้มากกว่าการดำเนินธุรกิจเฉพาะในตลาดภายในประเทศถึงสองเท่า เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ Meta จะเปิดอบรมหลักสูตรการตลาดด้วย AI สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย เพื่อสอนแนวปฏิบัติเชิงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตไปสู่ตลาดนอกประเทศ
"ประเทศไทยเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเติบโตผ่านเทคโนโลยี ด้วยการมอบเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกด้าน AI ที่ล้ำสมัยให้กับธุรกิจไทย เราไม่เพียงแต่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังสำคัญให้พวกเขาสามารถแบ่งปันวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ในระดับโลกอีกด้วย" ดร. ราฟาเอล แฟรงเคิล กล่าวเสริม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง