ตามรวบไม่เลิก...! แก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกสาวโอนเงินโดยต้นทางอยู่ที่ประเทศไนจีเรีย

นายโรเจอร์ คายยูน และนาย เอ็มมานูเอล คาซูมา สัญชาติยูกันดา และนางสาววิไลวรรณ เพชรทอง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง ถูกตำรวจท่องเที่ยวจับกุมได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง กลางสมุดบัญชีธนาคาร,บัตรเอทีเอ็ม,โทรศัพท์มือถือ,และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กจำนวนหลายรายการ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี สืบทราบว่ามีกลุ่มต่างชาติผิวสีและชาวไทยตระเวนกดเงินสดตามตู้ atm ในพื้นที่เกาะสมุย จนทราบว่า กลุ่มคนที่ตรงกดเงิน คือผู้ต้องหาทั้งสามคน ซึ่งจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติทั้งสองคนพบว่าอยู่เกินมจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้เมื่อวันข้อมูลให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อมูลทางบัญชีและตรวจยึดไว้เนื่องจากชื่อว่ากลุ่มชายผิวสีและหญิงไทยคนดังกล่าวเป็นผู้ร่วมกันกระทำความผิดหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก และหลอกลวงให้โอนเงินในรูปแบบโรแมนซ์สแกม ซึ่งจากการตรวจสอบของศูนย์พบว่าบัญชีอายัดไว้เป็นบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงหลายรายรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 8 แสนบาทเบื้องต้นตรวจพบผู้เสียหายจำนวน 4 คนในพื้นที่สน.ตลาดพลู สน.ประชาชื่น สภ. เมืองบุรีรัมย์และสภ. เมืองตรัง ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว

เบื้องต้นนางสาววิไลวรรณ รับว่า รู้จักกับผู้ต้องหามาได้ประมาณ 1 เดือนแล้วโดยการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานที่ร้านสปาด้วยกัน ผู้ต้องหาได้ขอสมุดบัญชีโดยอ้างว่าจะนำไปรับโอนเงินมาจากที่ชายที่อยู่ต่างประเทศ โดยจะได้ค่านายหน้าหรือค่าหัวครั้งละประมาณ 4,000 บาทซึ่งที่ผ่านมาได้รับเงินค่าจ้างมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเครือข่ายโรแมนซ์สแกมและตนเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว ทั้งนี้ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้หลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไปกว่า 3 แสนบาทก็รู้สึกตกใจและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้

ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจทราบข้อมูลแล้วว่าผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวมีการโอนเงินปล่อยให้กับกลุ่มบุคคลใดในประเทศไนจีเรียและเตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้ดำเนินการติดตามจับกุมถึงต้นทางไปก่อนหน้านี้ และจากการตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาพบว่าภายหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาภายในบัญชีไม่เกิน 30 นาทีผู้ต้องหาก็จะโอนเงินทั้งหมดไปให้กับผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ในประเทศไนจีเรียทันทีทำให้การติดตามเงินกลับมาเป็นไปได้ยาก

ล่าสุดตำรวจได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน หรือ ปปง. สามารถนำเงินของผู้ต้องหารายอื่นที่สามารถอายัดได้ทัน ก่อนส่งคืนให้กับผู้เสียหายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้เพื่อให้กลุ่มคนร้ายในรูปแบบนี้ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ง่ายขึ้นได้มีการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเรื่องการออกวีซ่าให้กับชาวต่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มต้องสงสัยยากขึ้น โดยจะต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดมากขึ้นเพื่อกลุ่มคนร้ายเข้ามาในประเทศได้