SHORT CUT
รู้จัก 'ช่องแคบเดรก' ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นทางเดินเรือที่อันตรายที่สุด แต่ก็มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในระดับทวีป
'ช่องแคบเดรก' ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างปลายสุดของทวีปอเมริกาใต้และคาบสมุทรแอนตาร์กติกาตะวันตก ขึ้นชื่อว่าเป็นช่องแคบที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยคลื่นที่สูงได้ถึง 80 ฟุต (25 เมตร) รวมถึงลมแรงและสภาพอากาศที่ปั่นป่วน ทำให้เป็นความท้าทายที่น่ากลัวสำหรับนักเดินเรือที่จำเป็นต้องสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว
เส้นทางนี้ได้รับการตั้งชื่อตาม เซอร์ ฟรานซิส เดรคนักสำรวจในศตวรรษที่ 16 มันคือเส้นทางที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ เป็นช่องแคบที่มีความกว้างประมาณ 965 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับมหาสมุทรโดยรอบ ส่งผลให้กระแสน้ำเพิ่มความเร็วจนทะเลปั่นป่วนตลอดเวลา รวมถึงสภาพอากาศที่แปลกประหลาดแบบคาดเดาไม่ได้ แม้แต่นักเดินเรือที่มีประสบการณ์ก็ยังรู้สึกวิตกกังวล
ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อช่องแคบเดรกคือที่ตั้ง เมื่อลมและกระแสน้ำพัดผ่านช่องแคบนี้ ลมและกระแสน้ำจะปะทะกันและทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่และสภาพอากาศที่เลวร้าย กระแสน้ำเย็นและน้ำอุ่นที่ผสมกันยิ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่อันตรายสายนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากน้ำที่ปั่นป่วนช่วยกักเก็บคาร์บอนปริมาณมากในมหาสมุทรลึก ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอุณหภูมิโลก กระแสน้ำที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลายังช่วยนำสารอาหารจากมหาสมุทรลึกขึ้นมายังผิวน้ำ ช่วยรักษาระบบนิเวศทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเกิดขึ้นขององแคบเดรกเมื่อระหว่าง 49 - 17 ล้านปีก่อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทวีปแอนตาร์กติกาเย็นตัวลงและเกิดแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทวีป หากไม่มีสภาพอากาศที่เลวร้ายและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในช่องแคบเดรก ทวีปแอนตาร์กติกาอาจมีน้ำแข็งน้อยลงมาก และไม่มีระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของทวีปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าว ส่งผลให้กระบวนการต่างๆ ที่เคยทำให้ทวีปแอนตาร์กติกาหนาวเย็นดำเนินไปช้าลงกว่าเดิม