svasdssvasds

ผลวิจัยชี้! คนอายุน้อยเสี่ยงเสียชีวิตจาก “ความร้อน” มากขึ้นในศตวรรษนี้

ผลวิจัยชี้! คนอายุน้อยเสี่ยงเสียชีวิตจาก “ความร้อน” มากขึ้นในศตวรรษนี้

ผลวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Science Advances ประมาณการการเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีเพิ่มขึ้น 32% หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง

SHORT CUT

  • วิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Science Advances ประมาณการการเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีเพิ่มขึ้น 32%
  • งานวิจัย ระบุว่า ในปัจจุบัน การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิในเม็กซิโกและในหลายประเทศส่วนใหญ่เกิดจากอากาศหนาวเย็น

  • งานวิจัยของพบแหล่งองความไม่เท่าเทียมที่น่าประหลาดใจ นั่นคือ ส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูงเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า

ผลวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Science Advances ประมาณการการเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีเพิ่มขึ้น 32% หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง

ความร้อนจัดที่เกิดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศมักถูกมองว่าเป็นปัญหาหลักสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบาง อย่าง ผู้สูงอายุ แต่ผลการวิจัยใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Science Advances ระบุว่า ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการเสียชีวิตจากความร้อนเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น

แม้ผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มประชากรที่ค่อนข้างเปราะบางต่อคลื่นความร้อน แต่ในปัจจุบัน พวกเขาคิดเป็นส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศเย็น ในขณะที่โลกร้อนขึ้น ผู้คนอายุน้อยจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่สมดุลเมื่อภาระจากการเสียชีวิตเปลี่ยนแปลงไป โดยการศึกษาใหม่คาดการการณ์ว่า การเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี จะเพิ่มขึ้น 32% ในศตวรรษนี้จากความร้อน หากไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมีนัยสำคัญ

Andrew Wilson นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นผู้นำทีมนักวิจัยอีก 9 คนในการศึกษานี้ กล่าวว่า การถกเถียงเกี่ยวกับความเปราะบางต่อความร้อนส่วนใหญ่ มักเน้นไปที่ผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของเราพบแหล่งองความไม่เท่าเทียมที่น่าประหลาดใจ นั่นคือ ส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูง เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า

การศึกษานี้อ้างอิงจากข้อมูลของการเสียชีวิตในเม็กซิโก ซึ่งมีระบบการบันทึกข้อมูลการเสียชีวิตอย่างละเอียดและครอบคลุม ประกอบกับการมีอุณหภูมิแบบกระเปาะเปียก (Wet bulb temperatures) ที่สูง ซึ่งเป็นการวัดอุณหภูมิที่คำนึงถึงทั้งอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ เพื่อประเมินระดับความเครียดจากความร้อนที่ส่งผลต่อมนุษย์

ผลวิจัยชี้! คนอายุน้อยเสี่ยงเสียชีวิตจาก “ความร้อน” มากขึ้นในศตวรรษนี้

นักวิจัย พบว่าในช่วง 2 ทศวรรษ จนถึงปี 2019 ที่ผ่านมา การเสียชีวิตจากความร้อนราว 75% เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ขณะที่การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะอากาศหนาวเกือบทั้งหมดอยู่ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

งานวิจัยระบุว่า ในปัจจุบัน การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิในเม็กซิโกและในหลายประเทศส่วนใหญ่เกิดจากอากาศหนาวเย็น อย่างไรก็ตาม ปัญหาความร้อนจัดที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้ โดยอาจทำให้คนอายุน้อยมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น พร้อมเสนอแนะว่า แนวโน้มในลักษณะที่คล้ายกันนี้อาจเกิดขึ้นในหลายประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป เนื่องจากประชากรในประเทศเหล่านี้มีลักษณะการตอบสนองต่ออุณหภูมิที่คล้ายคลึงกัน

Andrew Wilson ระบุว่า เราเห็นแล้วว่าการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศหนาวเย็นจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ในขณะที่การเสียชีวิตจากความร้อนในหมู่คนหนุ่มสาวจะเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นแล้วและวิธีที่เราปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพมนุษย์ในอนาคต เราไม่ควรเปลี่ยนทิศทางการจัดสรรทรัพยากรจากกลุ่มผู้สูงอายุที่เปราะบาง แต่เราควรต้องคิดถึงความเสี่ยงที่คนหนุ่มสาวต้องเผชิญให้มากขึ้นอย่างแน่นอน

ผลวิจัยชี้! คนอายุน้อยเสี่ยงเสียชีวิตจาก “ความร้อน” มากขึ้นในศตวรรษนี้

ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของคนหนุ่มสาวต่ออุณหภูมิที่สูง ไม่มีคำตอบเดียวที่ชัดเจน แต่นักวิจัยระบุว่า หลายปัจจัยมีบทบาทสำคัญ เช่น ความแตกต่างทางสรีรวิทยา เนื่องจากทารกยังไม่สามารถขับเหงื่อเพื่อระบายความร้อนได้และต้องพึ่งพาผู้ดูแลอย่างมาก ตลอดจน ความเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ อย่าง ประชากรวัยทำงานที่ต้องทำงานหนักกลางแจ้ง เช่น การทำงานในภาคการเกษตรและการก่อสร้าง

ในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้เวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาในการพัฒนากฎระเบียบระดับชาติฉบับแรกที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องแรงงานจากความร้อนจัด แม้กฎระเบียบเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2025 ก็ตาม

Kristie Ebi นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยนี้ ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตจากความร้อนของกลุ่มคนหนุ่มสาวในประเทศอย่างเม็กซิโกที่เพิ่มสูงขึ้น มีเหตุปัจจัยสำคัญหลายประกาศ อาทิ โครงสร้างประชากรที่มีคนอายุน้อยกว่าคนชรา รวมถึง ความเสี่ยงต่าง ๆ จากการทำงานกลางแจ้ง ซึ่งต้องเผชิญกับแสงแดดและอุณหภูมิสูงโดยตรง

Kristie Ebi  อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้การสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ในทางกลับกันก็สามารถช่วยให้ร่างกายปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดีขึ้น พร้อมเสริมว่า ยังต้องมีการศึกษามากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจรูปแบบเหล่านี้อย่างชัดเจน และอาจขยายขอบเขตการวิจัยเกี่ยวกับการปรับตัวให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรในประเทศอื่น ๆ ต่อไป

ด้าน Sameed Khatana แพทย์และนักวิจัยของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งงานวิจัยของเขาพบว่า การเสียชีวิตจากโรคหัวใจที่เกี่ยวข้องกับความร้อนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษต่อ ๆ ไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า การศึกษาของ Andrew Wilson และทีม ให้ความเข้าใจได้ดีขึ้นว่ากลุ่มประชากรที่แตกต่างกันอาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไร และเป็นไปได้ว่าอย่างน้อยในเม็กซิโก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้จำนวนการเสียชีวิตจากความร้อนในกลุ่มคนอายุน้อยเพิ่มขึ้น

Khatana กล่าวว่า คนอายุน้อยมักสัมผัสกับความร้อนจากที่ทำงาน โรงเรียน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไม่สมดุล ซึ่งนี่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการคิดหามาตรการที่มุ่งเป้า เช่น การให้คนงานที่ทำงานในสภาพอากาศร้อนได้พักเบรกหรือการปรับเปลี่ยนเวลาการแข่งขันกีฬาเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจัด

ที่มา: https://www.theguardian.com/us-news/2024/dec/06/young-adults-heat-related-deaths-climate-crisis

 CREDIT ภาพ: AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related