svasdssvasds

เปรียบเทียบปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่

เปรียบเทียบปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่

ชวนตรวจสอบ เปรียบเทียบปริมาณน้ำ ปี 2554 กับ ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่ จากหลายๆปัจจัยทั้ง ประเด็น ปริมาณพายุ และ ปริมาณน้ำฝนสะสม รวมถึง ปริมาณพื้นที่รองรอบน้ำในเขื่อน

SHORT CUT

  • โอกาสที่กรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 ถือว่ามีไม่มาก เนื่องจากปัจจัยหลักทั้งปริมาณพายุ ปริมาณน้ำฝน และความสามารถในการรองรับน้ำ ล้วนอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า
  • อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยอื่นๆ เช่น น้ำทะเลหนุน และการระบายน้ำในพื้นที่เมือง
  • แม้โอกาสน้ำท่วมใหญ่จะน้อยกว่าปี 2554  แต่อาจเกิดน้ำท่วมเฉพาะจุดได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือมีปัญหาการระบายน้ำ

ชวนตรวจสอบ เปรียบเทียบปริมาณน้ำ ปี 2554 กับ ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่ จากหลายๆปัจจัยทั้ง ประเด็น ปริมาณพายุ และ ปริมาณน้ำฝนสะสม รวมถึง ปริมาณพื้นที่รองรอบน้ำในเขื่อน

เปรียบเทียบ ปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่ 

คำถามที่อยู่ในใจของคนกรุงเทพฯ หลายๆคน คือ จะเจอกับประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 หรือไม่ ?  เพราะเหตุการณ์ภาพฝันร้ายเก่าๆ ยังชัดเจนอยู่เลย แม้จะผ่านไปเป็นเวลา 10 ปีแล้วก็ตาม 

แม้ความรู้สึกของใครหลายคนนั้น อาจจะมีความกลัวครอบคลุมจิตใจ แต่ถ้ามาว่ากันที่ Fact และข้อเท็จจริงนั้น คงต้องมาเจาะดูที่สถิติข้อมูลต่างๆ แล้วนำมาประกอบกันในการวิเคราะห์ 

เปรียบเทียบปริมาณพายุ 2554 VS 2567 

ในประเด็นแรกนั้น เราลองมาดูที่ปริมาณพายุที่จะพัดเข้าใส่ประเทศไทยกันก่อน 

โดยในช่วงปี 2554 นั้น สิ่งที่ประเทศไทยต้องเจอกันคือ พายุเข้าไทย จำนวน 5 ลูก ได้แก่ 1. ไห่หม่า เดือน มิ.ย. 2. นกเตน เดือน ก.ค. 3. ไห่ถาง เดือน ก.ย. 4. เนสาด ต้นเดือน ต.ค. และ 5. นาลแก ปลายเดือน ต.ค. 

ในขณะที่ ปี 2567 มีการคาดการณ์ว่า ไทยจะต้องเจอกับพายุ  จำนวน 1 - 2 ลูก โดย พายุหมุนเขตร้อน จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย  โดยมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณภาคตะวันออก เฉียงเหนือและภาคเหนือช่วงเดือน ก.ย. และ ต.ค.

นั่นหมายความว่า ปี 2567 ปริมาณพายุจะน้อยกว่าปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่

เปรียบเทียบ ปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่
 

วัดปริมาณน้ำฝนสะสม ปี 2554 VS 2567 

ปัจจัยที่ 2 เราลองมาดูที่ ปริมาณน้ำฝน ที่สะสมมาตลอดทั้งปี ซึ่งในปี ในปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่นั้น , ฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และมีฝนตกต่อเนื่อง โดยไม่มีภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปี สูงกว่าปกติ 24% และมีค่ามากที่สุดในรอบ 61 ปี นับจาก พ.ศ. 2494

ขณะที่ในปี 2567 นับจากการเก็บสถิติตั้งแต่ต้นปี จนถึง 20 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนทั้งประเทศ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ปริมาณฝนสะสม 934 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่าปกติ 4 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ

นั่นหมายคววามว่า หากในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2567 หากมีฝนตกใต้เขื่อนไม่มาก การบริหารัดการน้ำก็น่าจะจัดการได้ กล่าวคือ น่าจะควบคุมน้ำที่ไหลลงมาจากทางภาคเหนือได้ 

เปรียบเทียบ ปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่

เทียบปริมาณพื้นที่รองรับน้ำในเขื่อน 

ส่วนในอีกประเด็นที่หลายๆคนสนใจ และ น่าจะเป็นคำตอบที่เป็นเชิงประจักษ์มากที่สุด นั่นคือ ปริมาณพื้นที่รองรับน้ำในเขื่อน 

ในปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ สามารถรองรับน้ำได้ 4,647 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)   แต่ในปี 2567 นี้ เรา ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 12,071 ล้าน ลบ. ม.

ดังนั้น ข้อสรุปสถานการณ์ น้ำในกรุงเทพฯ ณ เวลานี้ (28 สิงหาคม 2567) น่าจะสอดคล้องกับสิ่งที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวไว้ว่า ปริมาณน้ำที่ไหลมายัง กทม. โดยรวมยังไม่น่าเป็นห่วง สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายเหมือนปี 2554 แต่ต้องไม่ประมาทและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 

เนื่องจาก ร่องความกดอากาศต่ำยังอยู่ที่ จ.น่าน ทำให้ให้มีฝนตกลงลุ่มน้ำยมและน่านมาก ด้านน้ำ 4 ส่วนที่มีผลกระทบกับกรุงเทพฯ คือ น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน น้ำฝน และน้ำท่า เวลานี้ต้องเฝ้าระวังน้ำฝนมากที่สุด แต่ก็ได้เตรียมการรับมือ ทั้งขุดลอกคูคลอง ท่อระบายน้ำ เสริมคันกั้นน้ำ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั่นเอง

เปรียบเทียบ ปริมาณน้ำ ปี 2554 - ปี 2567 คนกรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related