ระวังสภาพอากาศแปรปรวน! โลกรวนทำการนั่งเครื่องบินเสี่ยงอันตราย
นาซาและสำนักงานด้านความปลอดภัยการบินสิงคโปร์เผยรายงานพบว่า สภาวะโลกร้อนกำลังทำให้เครื่องบินเสี่ยงตกหลุมอากาศเกิดบ่อยขึ้นเป็นสองเท่าภายในอีก 30 ปีข้างหน้า แถมฟ้าฝนแรงทำให้เครื่องลงจอดลำบาก เสี่ยงอันตรายมากขึ้น
หลายๆ คนที่เคยนั่งเครื่องบินอาจต้องเคยพบประสบการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศจนเครื่องสั่นโยกไปทั้งลำ หรือว่าตอนเครื่องกำลังแลนดิ้ง แต่สนามบินกลับเจอพายุฝนหนักจนไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ต้องบินวนจนกว่าสภาพอากาศจะโปร่งใสขึ้น ทำเอาคนบนเครื่องใจสั่นว่าน้ำมันจะหมดก่อนไหม
รายงานจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา เผยว่า ในอนาคตเราอาจต้องเจอกับเรื่องขวัญผวาเหล่านี้มากขึ้น เมื่อโลกร้อนกำลังทำให้ความเสี่ยงจากสภาพอากาศแปรปรวนเกิดขึ้นมากตามตัว
โลกยิ่งร้อนหลุมอากาศยิ่งเพิ่ม
ตามปกติแล้ว หลุมอากาศ หรือ clear air turbulence ที่เป็นตัวการให้เครื่องบินสั่นโคลงขณะทำการบินอยู่บนน่านฟ้าเปิด มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งบริเวณใกล้กับเคียงกับกระแสลมกรด (jet stream) ซึ่งเป็นแถบกระแสลมที่มีความเร็วสูง ราว 200-400 กม./ชม. โดยพัดจากด้านตะวันตกไปตะวันออกตามแนวการหมุนของโลก และพัดโค้งไปมาคล้ายแม่น้ำ มีความยาวหลายพันกิโลเมตร เคลื่อนตัวไปรอบ โดยทั่วไปกระแสลมกรดจะพบที่ระดับความสูง 10-15 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก ซึ่งเป็นระดับที่เครื่องบินทำการบิน
เนื่องจากความต่างของการเคลื่อนที่ของกระแสลมกรดกับอากาศรอบข้างที่แตกต่างกันมากทำให้เกิดบริเวณที่เรียกว่าหลุมอากาศขึ้น เป็นสาเหตุให้บริเวณที่กระแสลมกรดพัดผ่านมักมีหลุมอากาศเกิดขึ้นมาก
รายงานกล่าวว่า จากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้กระแสลมกรดมีความเร็วเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นอัตราการเกิดหลุมอากาศก็จะมากขึ้นและรุนแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยคาดว่า อัตราการเกิดหลุมอากาศจะเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าภายในปี 2050 และเครื่องบินอาจต้องเผชิญกับหลุมอากาศที่รุนแรงขึ้นถึง 40% ในช่วงอนาคตอันใกล้
พายุแรงทำเอาแลนดิ้งลำบาก
สภาวะโลกร้อนไม่เพียงทำให้เครื่องบินเสี่ยงตกหลุมอากาศบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้น จนอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินแล้วเท่านั้น พายุฝนและลมแรงที่จะยิ่งเกิดบ่อยขึ้น ก็ทำให้การนั่งเครื่องบินเป็นเรื่องอันตรายเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเครื่องกำลังทะยานขึ้นหรือกำลังลงจอด
สำนักงานด้านความปลอดภัยการบินสิงคโปร์ เร็วๆ นี้ ได้เผยรายงาน ชี้ว่า พายุรุนแรงที่กำลังเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสภาวะโลกร้อน กำลังเป็นความเสี่ยงใหม่ที่เหล่านักบินต้องเตรียมพร้อมรับมือ และอาจจำเป็นที่จะต้องขยับมาตรการความปลอดภัยทางการบินให้แน่นหนายิ่งขึ้น จากเหตุที่เครื่องบิน Boeing 777-300ER สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ลงจอดถึงพื้นอย่างฉิวเฉียดว่าน้ำมันจะหมด หลังต้องพยายามบินวนลงจอดถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะพายุรุนแรง ในเดือนตุลาคม ปี 2022
โดยในเหตุการณ์ดังกล่าว กัปตันเครื่องบินจะต้องลงจอดที่สนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่สำเร็จเพราะเกิดพายุรุนแรงจนไม่สามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย จนต้องบินไปลงจอดที่สนามบินบาตัม ประเทศอินโดนีเซียที่อยู่ใกล้เคียงกันแทน อย่างไรก็ตาม เมื่อพยายามลงจอดที่สนามบินบาตัม ก็กลับไม่สามารถนำเครื่องลงได้เช่นกัน เพราะที่สนามบินบาตัมก็กำลังมีพายุเข้าเช่นกัน
เครื่องบินจึงต้องบินวนและพยายามลงจอดถึง 3 รอบ กว่าจะลงจอดได้อย่างปลอดภัยสำเร็จ ซึ่งก็ฉิวเฉียดที่เครื่องบินจะน้ำมันหมดมาก หากต้องบินวนนานกว่านี้
“จากผลพวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความถี่ของพายุรุนแรงที่เกิดมากขึ้น ทำให้นักบินของเราต้องปฏิบัติการในพื้นที่ที่สภาพอากาศสุดขั้วและไม่สามารถคาดการณ์ได้บ่อยขึ้น ดังนั้นนักบินจึงควรเผื่อมาตรการความปลอดภัยทางการบินให้สูงขึ้น เพื่อทำให้แน่ใจว่าเครื่องบินจะสามารถทำการบินและลงจอดได้อย่างปลอดภัย” รายงานระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
