ยุโรปร้อนทุบสถิติสี่เดือนติด ปี 66 ขึ้นแท่นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์
เดือนกันยายนนี้ทำสถิติเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน เตรียมส่งทั้งปี 66 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ ชี้สัญญาณโลกร้อนจัดชัดเจน
อุณหภูมิเฉลี่ยในหลายประเทศทั่วยุโรปทำสถิติร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ นับเป็นเดือนที่สี่แล้วนับตั้งแต่ย่างเข้าฤดูร้อนในแถบซีกโลกเหนือเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกพุ่งสูงจนทำลายสถิตินับตั้งแต่เริ่มมีการตรวจวัดข้อมูล เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนชัดเจนถึงมหัตภัยโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) ที่ผ่านมา ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเดือนกันยายนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าจะเป็นเดือนที่อบอุ่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากสภาวะโลกร้อน สอดคล้องกับรายงานโดยหน่วยงานตรวจสอบสภาพอากาศของสหภาพยุโรป ที่เปิดเผยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า อุณหภูมิโลกในฤดูร้อนของซีกโลกเหนือในปีนี้ ถือว่าร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
Meteo-France หน่วยงานพยากรณ์อากาศของฝรั่งเศส ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนกันยายนนี้ในประเทศฝรั่งเศสอยู่ที่ประมาณ 21.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าช่วงอ้างอิงระหว่างปี 1991-2020 ถึงเกือบ 3.6 องศาเซลเซียส
ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเยอรมนี สำนักงานอุตุนิยมวิทยา DWD กล่าวว่าเดือนนี้เป็นเดือนกันยายนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกระดับชาติ ซึ่งสูงกว่าระดับพื้นฐานระหว่างปี 1961-1990 เกือบ 4 องศาเซลเซียส
เช่นเดียวกับสถาบันอุตุนิยมวิทยาของโปแลนด์ก็ประกาศเช่นกันว่า อุณหภูมิในเดือนกันยายนที่โปแลนด์ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย 3.6 องศาเซลเซียส และถือเป็นเดือนกันยายนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว
หน่วยงานสภาพอากาศแห่งชาติในประเทศแถบเทือกเขาแอลป์อย่างออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ยังได้บันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกันยายนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา หนึ่งวันหลังจากการศึกษาพบว่า ธารน้ำแข็งของสวิสสูญเสียปริมาตรถึงร้อยละ 10 ในช่วงสองปีท่ามกลางภาวะอากาศร้อนจัด
นอกจากนี้ รายงานของ Central England Temperature (CET) ซึ่งเป็นสถิติอุณหภูมิที่ยาวนานที่สุดในโลกของประเทศอังกฤษ ก็พบว่า เดือนกันยายนนี้มีอากาศอบอุ่นกว่าช่วงใดๆ ตลอดทั้งฤดูร้อน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติก่อนหน้านี้ที่ 20.9 องศาเซลเซียสเมื่อปี พ.ศ. 2438 ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนผิดปกติในอังกฤษส่วนหนึ่งเป็นผลจากคลื่นความร้อนรุนแรงเมื่อต้นเดือนกันยายน ที่พบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ติดต่อกันถึงเจ็ดวัน
ไม่เพียงเท่านี้ อากาศอบอุ่นผิดปกติในแถบทวีปยุโรปยังคาดว่าจะดำเนินต่อไปในเดือนตุลาคม หลังจากสำนักอุตุนิยมวิทยาอังกฤษได้พยากรณ์ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมจะยังมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4 องศาเซลเซียส
ศาสตราจารย์ เอ็ด ฮอว์กินส์ จากมหาวิทยาลัย Reading University ในอังกฤษ กล่าวว่า "อุณหภูมิโลกในปี 2566 นั้นไม่ธรรมดา เพราะอุณหภูมิโลกกำลังถีบตัวสูงขึ้นจนทำลายสถิติด้วยอัตราที่น่าตกใจ ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญญาณเตือนชัดเจนให้ประชาคมโลกเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและหยุดโลกร้อน ก่อนจะสายเดินแก้"
