โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน ช่วยให้เยาวชนสวมหมวกนิรภัยเพิ่มกว่า 50 %
เชฟรอนจัดโครงการ Chevron Street Wise หรือ เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน โดยร่วมกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย หรือ (AIP) และโรงเรียนในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช ส่งเสริมให้เด็กและผู้ปกครองสวมหมวกนิรภัยและใช้ท้องถนนอย่างปลอดภัยมากขึ้น
ทุกคนเชื่อไหมว่า ประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก จากการสำรวจขององค์กรอนามัยโลกในปี 2561 และถ้าลงรายละเอียดไปมากกว่านั้น ในทศวรรษที่ผ่านมา ร้อยละ 74.5 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ลงดีเทลลงไปอีก ในปี 2565 กว่า 86.82 % คือจำนวนผู้เสียชีวิตที่ไม่ สวมหมวกนิรภัย นอกจากนี้ร้อยละ 34.4 ของผู้เสียชีวิต มีอายุอยู่ในช่วง 10-29 ปี หรือก็คือช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่นทั้งสิ้น
นั้นเลยเป็นเหตุผลให้ เชฟรอน บริษัทพลังงานที่ให้ความสำคัญสูงสุดด้านความปลอดภัย จัดโครงการเดินทางปลอดภัยไปเรียน หรือ Chevron Street Wise มาตั้งแต่ปี 2557 โดยร่วมมือกับ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย หรือ (AIP) และยังทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยมุ่งเป้าไปที่เยาวชนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมกันที่โรงเรียนวรนารีเฉลิม และโรงเรียนวิเชียรชม ในจังหวัดสงขลากันครับ
จากการอบรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับทั้งครู ผู้ปกครอง และนักเรียนมากว่า 10 ปี โครงการได้ต่อยอดสู่การเปิดพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ความปลอดภัยทางถนน แบบอินเตอร์แอคทีฟ มีการจำลองสถานการณ์การใช้รถใช้ถนนให้กับเยาวชนอย่างสมจริง
หลังจากได้เริ่มโครงการไปตั้งแต่ปี 2557-2566 พบว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ เพิ่มขึ้นจากปกติ 3 % เป็น 55 % มีการใช้ทางม้าลายเพิ่มขึ้นจาก 29 % เป็น 94 % และไม่วิ่งข้ามถนนเพิ่มขึ้นจาก 42 % เป็น 72 % โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองได้รับประโยชน์กว่า 20,000 คน
การดำเนินการของโครงการนี้เป็นไปตามเป้าหมาย SDGs เป้าหมายที่ 3.6 ที่ต้องการลดจำนวนการตายและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วโลก และแผนระดับโลก ตามประกาศทศวรรษที่สองแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2564 – 2573 ที่กำหนดเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างน้อยร้อยละ 50 ในช่วงดังกล่าว ซึ่งเชฟรอนเองก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนด้วย
การสร้างจิตสำนึกใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยคือปัจจัยสำคัญของการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กระดับชั้นประถมเป็นต้นไป ก็จะช่วยให้อุบัติเหตุทางท้องถนนในบ้านเราลดลงได้อย่างแน่นอน โครงการดีๆ แบบนี้ ถือเป็นต้นแบบที่โรงเรียนอื่นๆ สามารถนำไปทำตามได้ครับ
