เมื่อโลกร้อนจนทะเลสาบน้ำแข็งบนเทือกเขาเอเวอเรสต์ระเบิด ส่งมวลน้ำไหลท่วมหมู่บ้าน Thame และภายในไม่กี่วินาที นำ้เหล่านั้นก็กลายเป็นน้ำแข็ง มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?
ณ เวลานี้ เนปาลกำลังเจอภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี หลังฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้น จนเอ่อล้นท่วมท่วมเมืองหลวงกาฐมาณฑุ เบื้องต้นคาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 232 คน
แต่ภาพที่คุณเห็นอยู่นี้ คือภาพถ่ายของหมู่บ้าน Thame ซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาเอเวอเรสต์ ตั้งอยู่บนความสูง 3,800 เมตร หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักพิชิตยอดเขาสูง เป็นจุดแวะพักผ่อน กิน ดื่ม เที่ยว ยอดนิยมแห่งหนึ่งในเนปาล
“เรายังไม่กล้ากลับบ้าน เพราะยังมีทะเลสาบอยู่ด้านบน” เสียงจากชาวบ้านรายหนึ่งในหมู่บ้าน Thame
เบื้องต้นทางการเนปาลกำลังลงพื้นที่เพื่อระดมความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ต้องการย้ายที่อยู่อาศัยไปยังกาฐมาณฑุ และโชคดีที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ณ หมู่บ้านแห่งนี้
สำหรับข้อสงสัยที่ว่าอยู่สูงขนาดนี้ น้ำมาจากไหน? ปรากฏการณ์ดังกล่าวถูกเรียนขานว่า น้ำท่วมทะเลสาบน้ำแข็ง (GLOF) ทะเลสาบจำพวกนี้เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง ขอบทะเลสาบไม่ได้มีอะไรกั้นอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่เป็นชั้นน้ำแข็งที่นับถอยหลังรอวันละลาย
และเมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น น้ำแข็งที่ก่อตัวอยู่ริมขอบทะเลสาบก็ละลาย ละลายรวดเร็วมากจนมวลน้ำไหลท่วมลงหมู่บ้าน และภายในเวลาไม่กี่นาทีน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งเพราะอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ
ซูดาน บิคาช มหารจัน นักธรณีวิทยาของ ICIMOD ได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมของหมู่บ้าน Thame หลังถูกน้ำท่วมจนกลายเป็นน้ำแข็ง โดยยืนยันว่าสาเหตุมาจากการระเบิดของทะเลสาบน้ำแข็ง
“เราต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อที่จะคาดการณ์ และเตรียมตัวรับมือได้ทันท่วงที” ซูดาน เผย “แต่ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ ในกรณีของคนที่อยากอยู่ต่อ คุณต้องเรียนรู้วิธีรับมือกับมัน”
อย่างไรก็ดี ในปี 2020 ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์พัฒนาภูเขาแบบบูรณาการระหว่างประเทศ หรือ ICIMOD เปิดเผยว่า ได้สำรวจทะเลสาบกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศเนปาล โดยระบุว่ามี 21 แห่งที่เป็นอันตรายต่อสรรพชีวิต จึงเป็นเหตุให้เนปาลเริ่มภารกิจระบายน้ำในทะเลสาบไม่ให้เอ่อล้นจนเกินไป
ที่มา: Elpasoinc
ข่าวที่เกี่ยวข้อง