svasdssvasds

ทรัมป์พบเซเลนสกี หวังสร้างสันติภาพยูเครนรับอาจถูกปูตินตบตา

ทรัมป์พบเซเลนสกี หวังสร้างสันติภาพยูเครนรับอาจถูกปูตินตบตา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้หารือกันอย่างใกล้ชิดที่งานพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

SHORT CUT

  • ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีเซเลนสกีได้พบปะกันที่งานพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการปะทะคารมกันก่อนหน้านี้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างหวังว่าการพูดคุยครั้งนี้จะนำไปสู่สันติภาพได้
  • มีความเห็นต่างระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับยูเครนและพันธมิตรยุโรปในประเด็นสำคัญของการเจรจาสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการยอมรับไครเมียว่าเป็นของรัสเซีย การยกเลิกคว่ำบาตร และการรับประกันความมั่นคงของยูเครน
  • ท่าทีของทรัมป์ต่อประธานาธิบดีปูตินดูเหมือนจะเปลี่ยนไป โดยเขาแสดงความไม่พอใจต่อการโจมตีพลเรือนในเคียฟ และเสนอแนวทาง "การธนาคาร" หรือ "คว่ำบาตรทางอ้อม" ในขณะที่ก่อนหน้านี้มักวิจารณ์เซเลนสกีมากกว่า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้หารือกันอย่างใกล้ชิดที่งานพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานถ้อยแถลงจากสำนักงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดียูเครน เจอกันเมื่อวันเสาร์ 26 เมษายน2568 ในงานพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทั้งคู่คุยกันอย่างใกล้ชิดราว 15 นาที โดยไม่มีคนติดตาม รัฐบาลเคียฟและวอชิงตันเผยแพร่ภาพการพบกันของทั้งคู่

เซเลนสกีเผยว่า การพูดคุยครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์หากสร้างสันติภาพได้อย่างที่ตนหวัง ด้านโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า การหารือ “ได้ผลอย่างยิ่ง”

การพบกันที่วาติกันซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์และเซเลนสกีปะทะคารมกันที่ห้องทำงานรูปไข่ในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในความพยายามยุติการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

หลังเสร็จสิ้นพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ทรัมป์ขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเดินทางออกจากกรุงโรม บนเครื่องบินเขาโพสต์ทรูธโซเชียลด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพาดพิงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ถึงการใช้ขีปนาวุธโจมตีอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในกรุงเคียฟเมื่อวันพฤหัสบดี (24 เมษายน) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน

“ไม่มีเหตุผลสำหรับปูตินที่จะยิงขีปนาวุธเข้าใส่เมืองใหญ่น้อยและพื้นที่พลเรือนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา”

“มันทำให้ผมคิดว่า เขาอาจไม่ได้ต้องการยุติสงคราม เขาแค่ตบตาผม เราต้องจัดการด้วยวิธีแตกต่างออกไป โดยใช้ ‘การธนาคาร’ หรือ ‘คว่ำบาตรทางอ้อม’ดีมั้ย คนตายมากเกินไปแล้ว”

หลังจากทรัมป์โพสต์ ลินด์ซีย์ แกรห์ม สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า วุฒิสภาเตรียมเดินหน้ากฎหมายร่วมสองพรรคออกมาตรการคว่ำบาตรประเทศที่ซื้อน้ำมัน ก๊าซ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของรัสเซีย

“วุฒิสภาพร้อมแล้วที่จะเคลื่อนในทิศทางนี้ และจะทำอย่างท่วมท้นถ้ารัสเซียไม่เอาสันติภาพอันทรงเกียรติ เป็นธรรม และยืนยาว” แกรห์มโพสต์พบแพลตฟอร์ม X

โพสต์นี้ของทรัมป์แตกต่างไปจากเดิมที่มักวิจารณ์เซเลนสกีตรงๆ รุนแรง แต่มักพูดถึงปูตินในทางที่ดี

ด้านเซเลนสกีก็โพสต์บนเทเลแกรม “เป็นการประชุมที่ดี ตัวต่อตัว เราหารือกันหลายเรื่อง และคาดหวังผลกับทุกสิ่งที่เราได้คุยกัน”

ทรัมป์กำลังกดดันทั้งมอสโกและเคียฟให้เห็นชอบหยุดยิงแล้วทำข้อตกลงสันติภาพ ก่อนหน้านี้เขาเคยเตือนว่า สหรัฐจะวางมือไม่เอาด้วยแล้ว ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่เห็นชอบทำข้อตกลงกันโดยเร็ว 

หลังจากผู้เกี่ยวข้องวิ่งรอกเจรจาในสัปดาห์นี้ ความแตกต่างเรื่องจุดยืนในการเจรจาสันติภาพได้บังเกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับยูเครนและพันธมิตรยุโรป

ตามเอกสารการเจรจาที่รอยเตอร์สได้มา วอชิงตันเสนอให้ยอมรับคาบสมุทรไครเมียของยูเครนที่มอสโกผนวกเป็นของตนเองในปี 2014 ว่าเป็นของรัสเซียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งนี่คือเส้นตายที่เคียฟและพันธมิตรยุโรปไม่ยอมเด็ดขาด

นอกจากนี้ยังมีความเห็นต่างเรื่องความรวดเร็วในการยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย หากลงนามข้อตกลงสันติภาพกันได้, ยูเครนจะได้รับการค้ำประกันความมั่นคงอย่างไร และยูเครนจะได้รับเงินชดเชยอย่างไร

ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ส่วนตัวของทรัมป์กับเซเลนสกีไม่ราบรื่น ตอนประชุมกันที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์กล่าวหาผู้นำยูเครนว่า “กำลังพนันกับสงครามโลกครั้งที่ 3”

นับจากนั้น เคียฟก็พยายามปรับความสัมพันธ์แต่ความบาดหมางยังมีอยู่ เซเลนสกีกล่าวว่า ทรัมป์ติดอยู่ใน "ฟองสบู่ของข้อมูลเท็จ" ที่เข้าข้างมอสโก ขณะที่ผู้นำสหรัฐกล่าวหาเซเลนสกีว่า ยื้อข้อตกลงสันติภาพ " พูดจา "สร้างความร้าวฉาน"

แต่ทั้งสองคนก็ขาดกันไม่ได้ ทรัมป์ต้องการเซเลนสกีเพื่อทำให้ความฝันสร้างสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนของเขาสำเร็จ ขณะที่รัฐบาลเคียฟต้องการให้ทรัมป์กดดันมอสโก ผ่อนปรนเงื่อนไขบางอย่างที่กำหนดไว้สำหรับการหยุดยิง

ตอนพบกันที่ห้องทำงานรูปไข่ในเดือนกุมภาพันธ์ นักข่าวคนหนึ่งจากสถานีโทรทัศน์ฝ่ายขวาของสหรัฐ กล่าวหาเซเลนสกีว่า ไม่ให้เกียรติการประชุมเพราะไม่สวมสูท

นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 เซเลนสกีก็หลีกเลี่ยงการสวมชุดสูทและหันมาสวมชุดสไตล์ทหารแทน โดยกล่าวว่าเป็นวิธีแสดงความสามัคคีกับเพื่อนร่วมชาติที่ต่อสู้เพื่อปกป้องยูเครน

ในงานพระศพที่กรุงโรมก็เช่นกันเซเลนสกีตัดสินใจไม่ใส่สูท สวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มติดกระดุมถึงคอและไม่ผูกเน็กไท แล้วสวมเสื้อแจ็กเก็ตสไตล์ทหารสีเข้มทับลงไปแทน

อ้างอิง

กรุงเทพธุรกิจ

related