svasdssvasds

เซเลนสกี vs ทรัมป์ ปะทะเดือด! ยูเครนทรุดหนัก เสี่ยงรัฐประหารซ้อน

เซเลนสกี vs ทรัมป์ ปะทะเดือด! ยูเครนทรุดหนัก เสี่ยงรัฐประหารซ้อน

เซเลนสกี vs ทรัมป์ ปะทะเดือด! ยูเครนทรุดหนัก เสี่ยงรัฐประหารซ้อน ท่ามกลางการสูญเสียกว่า 55,000 ชีวิต ที่คาดว่ามีมากกว่านั้น

SHORT CUT

  • "ทรัมป์-เซเลนสกี" ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกีอย่างรุนแรงและกดดันให้ยูเครนยุติสงคราม ท่าทีของทรัมป์ที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดความกังวลว่าสหรัฐฯ จะลดการสนับสนุนยูเครน
  • ยูเครนเผชิญวิกฤตที่เลวร้ายและความสูญเสียอย่างหนัก ยูเครนสูญเสียดินแดนและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น สถานการณ์โดยรวมอยู่ในภาวะ "เจียนอยู่เจียนตาย"
  • มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ในยูเครน หากเซเลนสกีแข็งข้อกับทรัมป์ อาจเกิดรัฐประหารหรือการเลือกตั้งใหม่ นอกจากนี้ ยูเครนยังเสี่ยงที่จะสูญเสียดินแดนให้รัสเซียมากขึ้น

เซเลนสกี vs ทรัมป์ ปะทะเดือด! ยูเครนทรุดหนัก เสี่ยงรัฐประหารซ้อน ท่ามกลางการสูญเสียกว่า 55,000 ชีวิต ที่คาดว่ามีมากกว่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน มีความซับซ้อนและตึงเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ การเปลี่ยนแปลงท่าทีของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ รวมถึงความขัดแย้งและความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างผู้นำทั้งสอง ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งรวมถึงความสูญเสียที่ยูเครนต้องเผชิญและความเสี่ยงต่อวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ความขัดแย้งและการปะทะคารม

มีรายงานว่า เซเลนสกีถูกเชิญให้ออกจากทำเนียบขาวหลังจากการปะทะคารมอย่างดุเดือดกับทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ทรัมป์กล่าวว่า เซเลนสกีไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะสั่งการสหรัฐฯ ได้ และวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำยูเครนที่นำชีวิตประชาชนหลายล้านคนมาเดิมพัน

ทรัมป์กล่าวหาว่าเซเลนสกีไม่เคารพสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนยูเครนมากกว่าประเทศอื่น ๆ

ทรัมป์กดดันให้ยูเครนลงนามข้อตกลงเพื่อยุติสงคราม โดยขู่ว่าจะถอนการสนับสนุนหากไม่ทำตาม

ท่าทีของทรัมป์ต่อยูเครนและรัสเซีย

ทรัมป์แสดงท่าทีที่เปลี่ยนไป โดยเลือกที่จะลดบทบาทในการสนับสนุนยูเครน และต้องการให้ยูเครนแลกกับการเข้าถึงแร่หายากในประเทศ

ทรัมป์กล่าวโทษว่ายูเครนเป็นฝ่ายเริ่มจุดไฟสงคราม และกล่าวหาเซเลนสกีว่าเป็น "เผด็จการ"

ทรัมป์พยายามรักษาสัญญาที่จะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนให้เร็วที่สุด และดูเหมือนจะโน้มเอียงไปทางรัสเซีย

สถานการณ์ในยูเครน: วิกฤตและความสูญเสีย

ยูเครนกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เปรียบเทียบว่ายูเครนอยู่ในสภาพ "เจียนอยู่เจียนตาย"

ยูเครนสูญเสียดินแดนไปแล้ว 11% ตั้งแต่ปี 2565 แม้จะได้รับชัยชนะในบางภูมิภาค แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียมหาศาล

มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจากสงคราม ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติระบุว่า พลเมืองยูเครน 12,000 คนเสียชีวิต และกว่า 29,000 คนได้รับบาดเจ็บ มีรายงานจาก BBC ว่าเซเลนสกี ยอมรับว่ามีทหารและเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนเสียชีวิตราว 43,000 นาย ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากชาติตะวันตกเชื่อว่าตัวเลขนี้เป็นการประมาณการที่ต่ำเกินไป

ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเยอรมนีและโปแลนด์

ความเสี่ยงและวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

มีความเสี่ยงที่ยูเครนจะเกิดรัฐประหาร หากเซเลนสกีแข็งข้อกับทรัมป์ หรืออาจมีการเลือกตั้งใหม่ ดร.อดุลย์ กำไลทอง วิเคราะห์ว่า หากเซเลนสกีไม่ยอมอ่อนข้อ อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ

การเปลี่ยนแปลงท่าทีของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การสูญเสียดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กล่าวว่า รัสเซียอาจได้ดินแดนทั้งหมดของยูเครน ตั้งแต่ดอนบาสไปจนถึงไครเมีย

ผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ

มีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์และปูตินอาจมีการพูดคุยลับกันเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง

เซเลนสกีอาจยอมแลกเปลี่ยนดินแดนกับรัสเซีย และลาออกเพื่อแลกกับการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต

ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี รวมถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ในยูเครน ยูเครนกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้าย มีความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ อนาคตของยูเครนยังคงไม่แน่นอน ท่ามกลางผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

อ้างอิง

รอบโลก / ต่างประเทศ /
 

related