สงครามรัสเซีย-ยูเครน 3 ปี ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมหนักสาหัส ป่าไม้ถูกทำลาย 18 ล้านไร่ ไฟป่าจากมนุษย์ และภัยแล้งปล่อยคาร์บอนมหาศาล ก๊าซเรือนกระจกพุ่ง 230 ล้านตัน
24 ก.พ. 2022 คือวันแรกที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ทว่า แทนที่จะยึดยูเครนได้ภายในไม่กี่วันตามปนิธานของประธานาธิบดีรัสเซีย ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ แต่การรบกลับกินเวลายาวนานถึง 3 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 174,000-420,000 คน
นอกจากความสูญเสีย และความทุกข์ทรมานของมนุษย์แล้ว สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังสร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมมหาศาล กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) คาดการณ์ว่า พื้นที่ป่าราว 3 ล้านเฮกตาร์ถูกทำลาย อาทิ ต้นไม้ถูกโค่น (เผา) ขุดสนามเพาะ ซ่อนทุ่นระเบิด ฯลฯ
ทั้งนี้ การศึกษาพบว่า ป่าไม้ที่ถูกทำลาย (ด้วยการเผา) ตลอดเวลา 3 ปีของสงคราม ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 230 ล้านตัน แค่ 12 เดือนที่ผ่านมา ปล่อยมลพิษแล้วประมาณ 55 ล้านตัน อนึ่งว่านี่เป็นไฟป่าจากฝีมือมนุษย์
กลับกัน ฤดูร้อนในปีที่ผ่านมา ซึ่งว่ากันว่าร้อน และแล้งผิดปกติ ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่สนามรบจำนวนมาก การศึกษาชิ้นนี้ ระบุว่า ในปี 2024 มีพื้นที่ที่เกิดไฟป่าประมาณ 92,100 เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของค่าเฉลี่ยรายปี (38,300 เฮกตาร์)
เลนนาร์ด เดอ คลาร์ก หัวหน้าคณะนักวิจัยจาก Initiative on Greenhouse Gas Accounting of War ผู้เขียนการศึกษาชิ้นนี้ เปิดเผยว่า “ไฟไหม้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ 2 ปีก่อน และแน่นอนว่าสูงกว่าในสถานการณ์ที่ไม่มีสงครามมาก”
“นั่นเป็นเพราะ...สถานการณ์แห้งแล้งมาก โดยเฉพาะทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นเขตสงคราม ประกอบกับคลื่นความร้อน”
“รวมถึงกองไฟที่ก่อขึ้นโดยทหาร การจุดโดรนและกระสุนอื่นๆ ประกอบกับการไม่มีโอกาสที่จะส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปช่วย ไฟไหม้เล็กๆ “ลุกลามกลายเป็นไฟที่ลุกลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และลุกลามอย่างไม่สามารถควบคุมได้”
“เรื่องนี้น่ากังวลมาก เพราะป่าเหล่านี้เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน คาร์บอนจะกักเก็บอยู่ทุกที่ทั่วโลก และหากคาร์บอนถูกเผา ป่าจะเติบโตอีกครั้งและนำ CO2 กลับคืนสู่ดินสู่ต้นไม้ ต้องใช้เวลา 40-60 ปี”
ที่มา: The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง