แบบนี้ก็มีด้วย ยูเครนมอบรางวัลให้แฮกเกอร์รัสเซีย คู่ขัดแย้งรัฐบาลปูติน

ทีม One Fist ได้ขโมยข้อมูลจากบริษัททหารรัสเซียและแฮกกล้องเพื่อสอดแนมทหารรัสเซียเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสงครามสมัยใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรมีการตั้งข้อกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติของรัฐที่สนับสนุนให้แฮ็กเกอร์พลเรือนหนึ่งในแฮกเกอร์ที่ชื่อ "โวลเทจ" ได้ประสานงานแฮ็กจากบ้านของเขาในสหรัฐอเมริกา

ชื่อจริงของเขาคือคริสโตเฟอร์ คอร์ไรท์และเขาทำงานด้านไอทีจากมิชิแกนอายุ 53 ปี กล่าวกับบีบีซีว่าเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความพยายามของเขาสำหรับยูเครนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการด้วยใบรับรองการขอบคุณ

แฮกเกอร์จากแปดประเทศที่แตกต่างกันออกไป เช่นสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและโปแลนด์ พวกเขาได้ร่วมกันโจมตีทางไซเบอร์หลายสิบครั้ง จนได้รับหนังสือรับรองจากกองทัพยูเครนว่า "มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและบำรุงรักษากิจกรรมสำคัญของกองทัพ" พวกเขาได้รับการลงนามโดยผู้บัญชาการกองกำลังจู่โจมทางอากาศของยูเครนอีกด้วย

กองกำลังนักรบไซเบอร์จากต่างแดน

นับตั้งแต่เริ่มต้นของความขัดแย้ง ยูเครนได้สนับสนุนให้แฮกเกอร์อาสาสมัครโจมตีเป้าหมายของรัสเซีย แต่การส่งรางวัลอย่างเป็นทางการไปยังพลเรือนต่างชาติถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความขัดแย้งและเป็นแม้ว่าหลายประเทศ รวมทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาจะมีระบบการให้รางวัลอย่างเป็นทางการสำหรับการแฮ็กทางจริยธรรม แต่เชื่อกันว่าเป็นครั้งแรกที่ประเทศหนึ่งได้ให้รางวัลแฮ็กเกอร์สำหรับการแฮ็กที่เป็นอันตรายและอาจเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ

ในเดือนตุลาคม เพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของการแฮ็กทั้งในสนามรับที่นยูเครนและในกาซา คณะกรรมการสภากาชาดสากล (ICRC) เตือนไม่ให้ใช้และสนับสนุนแฮกเกอร์พลเรือน และออกหนังสือแนะนำเพื่อเสริมจรรยาบรรณของกฎแห่งสงครามซึ่งวางไว้ในอนุสัญญาเจนีวาที่มีอยู่

ดร.ลุคาสซ์ โอเล็กนิค ผู้เขียน Philosophy of Cyber-security กล่าวว่ารางวัลของยูเครนต่อแฮกเกอร์ชาวต่างชาติอาจเป็นปัญหา

"การแจกรางวัลอาจทำให้เส้นแบ่งระหว่างผู้ต่อสู้และพลเรือนไม่ชัดมากขึ้น และถึงกับทำลายการเรียกร้องล่าสุดจาก ICRC ให้จำกัดและยุติการมีส่วนร่วมของพลเรือนในการปฏิบัติการรบ ในระยะยาว การกระทำดังกล่าวเป็นอันตราย" เขากล่าว

ดร.โอเลชนิกยังกล่าวอีกว่ามันเป็น "หลักฐานของยุคของเรา" ว่าไซเบอร์ในปัจจุบันได้รับการพิจารณาว่าเป็นขอบเขตของการดำเนินงานและทุกคนสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ออนไลน์ได้

คริสโตเฟอร์เริ่มแฮ็กข้อมูลทางทหารของรัสเซียเมื่อรัสเซียเริ่มบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 และกล่าวว่าเขาได้อุทิศตนเพื่ออุดมการณ์และเสียสละอย่างมาก

"ฉันตกงานที่ทำสิ่งนี้และใช้เงินออมตลอดชีวิตเพื่อแสวงหาชัยชนะสำหรับยูเครน" เขากล่าว "รางวัลนี้เป็นการกระตุ้นขวัญและกำลังใจที่แท้จริง" เขากล่าว รางวัลไม่ได้ระบุว่าการโจมตีทางไซเบอร์ใดมีประโยชน์มากที่สุด แต่ Voltage มีสามรางวัลในใจในฐานะผู้สมัคร

พวกเขาทำอย่างไร

ในตอนเริ่มต้นของการบุกรุกในปี 2022 One Fist ใช้เวลาหลายเดือนในการกำหนดสถานที่ทางกายภาพและไซเบอร์ของกล้อง CCTV หลายร้อยตัวที่สามารถดูได้ในที่สาธารณะในยูเครน และได้ค้นพบว่ากองกำลังรัสเซียใช้กล้อง CCTV ในการตรวจสอบกองกำลัง ดังนั้นทีมของเขาจึงช่วยปิดกล้องไม่ให้ใช้งานได้ ในทางกลับกัน มันคือวิธีเดียวกันที่เจาะเข้าไปในกล้องที่ Crimea ที่ถูกรัสเซียยึดครอง สามารถวิเคราะห์จำนวนรถถังและอุปกรณ์ของรัสเซีย ที่ถูกเคลื่อนย้ายข้ามสะพาน Kerch ได้อีกด้วย

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในเดือนมกราคม คริสโตเฟอร์และคนอื่น ๆ ก็ประสบความสำเร็จในการเจาะเข้าไปในบริษัทผู้ผลิตอาวุธชื่อดังของรัสเซียและขโมยข้อมูลส่วนตัว 100 กิกะไบต์ ซึ่งนำไปสู่การเฉลิมฉลองต่อสาธารณชนอย่างเป็นจากทางการยูเครน "ชุดข้อมูลที่โอนไปยังกระทรวงกลาโหมของยูเครนประกอบด้วยภาพวาด ข้อมูลจำเพาะ สิทธิบัตร ซอฟต์แวร์ที่อ้างถึงทั้งการพัฒนาทางทหารที่มีอยู่และความหวัง"

ยูเครนเสริมว่า ข้อมูลที่ถูกขโมยเป็น "การทำลายอย่างมีนัยสำคัญ" ต่อรัฐบาลมอสโกและมีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ (1.2 พันล้านปอนด์) แม้จะไม่บอกว่าตัวเลขนี้ไปถึงได้อย่างไรความขัดแย้งในยูเครนทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมไซเบอร์ส่วนใหญ่มาจากผู้สนับสนุนยูเครน เช่นกลุ่มนิรนามที่มุ่งเป้าไปที่รัสเซียด้วยการเจาะระบบในระดับต่ำและรบกวนรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ในบางกรณี และบางครั้งสถานีโทรทัศน์และวิทยุของรัสซียถูกแฮกและเว็บไซต์ข่าวก็ถูกทำให้ล่ม

แฮกเกอร์กับสงครามบนสนามเพาะออนไลน์

ทางการรัสเซียก็ถูกกล่าวหาเช่นกันว่าทำงานร่วมกับกลุ่มแฮกเกอร์อย่างคิลเน็ตเพื่อโจมตียูเครน แต่ไม่เคยยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ใด ๆ กับแก๊ง

กิจกรรมแฮกเก้อส่วนใหญ่ของทั้งสองฝ่ายหายไปหลังจากปีแรกของสงคราม ขณะที่สงครามกำลังดำเนินต่อไป แต่วิธีนี้ยังคงโจมตีรัสเซียและทำงานใกล้ชิดกับกองกำลังยูเครนในการเลือกโจมตีเป้าหมาย

เอมิลี่ เทย์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Oxford Information Labs และบรรณาธิการนิตยสาร Chatham House Cyber Policy เห็นพ้องกันว่ารางวัลการแฮกเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อาจเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับวิธีการใช้อาสาสมัครไซเบอร์ในความขัดแย้ง "รัฐบาลมักกีดกันผู้มีส่วนร่วมที่ไม่ใช่รัฐจากการดำเนินการโดยตรงในโดเมนไซเบอร์ เพราะกลัวการเพิ่มขึ้นหรือผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่สงครามมักจะเป็นช่วงพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่พิเศษ และการรุกรานของยูเครนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น" เธอกล่าว

ออนไลน์

/BBC/