SHORT CUT
มิคาอิล คาเวลาชวิลี นักฟุตบอล "แมนซิตี้" ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีจอร์เจีย ท่ามกลางวิกฤตการเมืองและเสียงประณาม
จอร์เจียตกอยู่ในภาวะความวุ่นวายทางการเมืองอย่างหนัก หลังจากมิคาอิล คาเวลาชวิลี อดีตนักฟุตบอลสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดยรัฐสภา การแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสประท้วงจากประชาชนที่สนับสนุนการเข้าร่วมสหภาพยุโรป (อียู) และข้อกล่าวหาเรื่องการโกงการเลือกตั้ง
โดยการประท้วงเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม 2567 เมื่อทั้งประธานาธิบดีซูราบิชวิลีและฝ่ายค้านเรียกร้องให้ยกเลิกผลการเลือกตั้งเนื่องจากข้อกังวลเรื่องความโปร่งใส ประธานาธิบดีซูราบิชวิลี เรียกประชาคมระหว่างประเทศให้สนับสนุนประชาชนจอร์เจีย และเน้นย้ำว่าชัยชนะของรัฐบาลไม่ใช่ความต้องการของประชาชนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอียู สหภาพยุโรป นาโต และสหรัฐอเมริกา ต่างเรียกร้องให้มีการสืบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการโกงการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ
การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรัฐบาลประกาศเลื่อนการเจรจาเข้าร่วมอียูออกไปจนถึงปี 2571 ชาวจอร์เจียส่วนใหญ่สนับสนุนการเข้าร่วมอียู และแนวทางนี้ยังถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ การตัดสินใจของรัฐบาลจุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ โดยผู้คนออกมาเดินขบวนบนถนน เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่
มิคาอิล คาเวลาชวิลี เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อจากชาติตะวันตก เขาเคยกล่าวหาฝ่ายค้านว่าเป็น "ขบวนการลับที่ 5" ที่ถูกชักใยจากต่างประเทศ และเรียกประธานาธิบดีซูราบิชวิลีว่า "สายลับระดับสูง" คาเวลาชวิลีและพรรคพลังประชาชนสนับสนุนกฎหมาย "ตัวแทนต่างชาติ" ซึ่งฝ่ายค้านมองว่าเป็นกฎหมายแบบเดียวกับรัสเซีย
พรรคจอร์เจียนดรีมถูกกล่าวหาว่ากำลังพาจอร์เจียกลับเข้าสู่เขตอิทธิพลของรัสเซีย แม้พรรคจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆกับรัฐบาลรัสเซีย แต่การกระทำของพรรคสร้างความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของจอร์เจียกับชาติตะวันตก
สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาประณามรัฐบาลจอร์เจียเรื่องการถอยหลังด้านประชาธิปไตย มีรายงานการควบคุมตัวผู้ประท้วงกว่า 460 คนทั่วประเทศในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลายคนถูกทารุณกรรม สหภาพยุโรปยังประณาม "การใช้ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยมและผิดกฎหมายโดยตำรวจ" และกำลังพิจารณามาตรการต่อต้านรัฐบาล
จะเห็นได้ว่าการแต่งตั้งคาเวลาชวิลีเป็นประธานาธิบดีจอร์เจียเป็นการเติมเชื้อไฟให้วิกฤตการณ์ทางการเมือง ความไม่ชอบธรรมของการเลือกตั้ง การเลื่อนการเจรจาเข้าร่วมอียู และข้อกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของรัสเซีย ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการประท้วงและเสียงประณามจากนานาชาติ อนาคตทางการเมืองของจอร์เจียยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป
อ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง