SHORT CUT
ชุมพรวิกฤต! ประกาศปิดถนนสายเอเชียรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ การรถไฟฯหยุดเดินรถไฟสายใต้ เมืองชุมพรและหลายอำเภอจมใต้น้ำ บางพื้นที่เกิดดินถล่ม-สะพานขาด ศปช.สั่งระดมความช่วยเหลือด่วน
วันที่ 14 ธันวาคม 2567 สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ชุมพร เข้าขั้นวิกฤต เมื่อเวลาประมาณ 12:25 น. จังหวัดชุมพรประกาศปิดเส้นทางทั้งขาขึ้นและล่อง ถนนเอเชีย 41 โดยให้ผู้สัญจรใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าจังหวัดระนองผ่านสี่แยกปฐมพร หรือแยกวังตะกอมุ่งหน้าแยกราชกรูด หรือจอดรอในพื้นที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศเปลี่ยนแผนการเดินรถสายใต้ทั้งหมดจะไม่สามารถเดินรถผ่านช่วง อ.เมือง อ.สวี และ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้ เนื่องจากน้ำได้ท่วมถึงเส้นทางเดินรถแล้ว ขบวน 168/86/84 ไม่มีเดินจากต้นทาง ขบวน 172 เดินรถในระยะ สุไหงโกลก-สุราษฎร์ธานี ขบวน 38/46/32 ไม่มีเดินแต่ต้นทาง ขบวน 446 เดินถึงสถานีหลังสวน และขบวน 43 เดินรถถึงสถานีชุมพร
ขณะที่ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รับทราบรายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดชุมพรที่มีปริมาณฝนสูงสุดในอำเภอเมืองถึง 265.9 มม. จึงประกาศเขตฯ พื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร อำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จิตอาสา เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของเส้นทางการจราจรบนถนนสายเอเชีย 41 ที่มีน้ำท่วมทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ พร้อมกล่าวขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมกันแจ้งข้อมูลเข้ามา โดยพี่น้องชาวชุมพร ได้แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมในเส้นทางและพื้นที่ต่างๆ ผ่านทางเพจ Facebook ของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพร ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลและสามารถเข้าไปดำเนินการเคลียร์เส้นทางและช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และชุมพร รวม 7 อำเภอ 22 ตำบล 73 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 10,000 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น