SHORT CUT
“เป็นทนาย แต่ไม่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำ คือการเป็นทนายผิดวิธี” มุมมองน่าคิด จาก Better Call Saul ซีรีส์ที่เผยให้เห็นมุมเทาๆ และวิธีหาเงินของอาชีพทนาย ที่หาดูได้ยาก
หากพูดถึงอาชีพที่มีหน้ามีตาในสังคม และมีแสงวิ่งเข้าหาตลอด หนึ่งในอาชีพนั้นคือ ‘ทนายความ’ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่บุคคล องค์กร หรือแม้แต่รัฐบาล และแน่นอนคนส่วนใหญ่ต้องคิดว่า ทนายทุกคนต้องรวย เพราะทำคดีหนึ่งได้หลายหมื่น หลายแสน จนถึงหลายล้าน
ทั้งนี้ การคิดว่าทนายทุกคนต้องรวย ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำตลอดเวลานั้นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะรายได้ของทนายความขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ จำนวนคดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ชื่อเสียง’ ที่ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยกำหนดรายได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทนายในยุคสมัยไหน การเข้ามาอยู่ในสายอาชีพนี้ แต่ไม่รวยสักที ยังเดินเตะฝุ่นทำแต่คดีที่ได้เงินน้อยอยู่ อาจหมายความว่า คนคนนั้นกำลังเป็นทนายผิดวิธี ซึ่งมุมมองนี้ทำให้นึกถึงตัวละคร ‘ซอล กู๊ดแมน’ ทนายความของอาชญากร จากเรื่อง Breaking Bad (ชื่อไทย ‘ดับเครื่องชน คนดีแตก’) ซีรีส์แนวอาชญากรรมชื่อดังสัญชาติอเมริกา
หากใครเคยดู Breaking Bad จะพบว่า ‘ซอล กู๊ดแมน’ เป็นทนายความที่มีเส้นสายและเงินมากมาย เพราะเขาเน้นว่าความให้กับเหล่าอาชญากร จึงต้องใช้ความลื่นไหล และทริคทางกฎหมายในการสู้คดีให้ผู้ร้ายอยู่เรื่อยๆ จึงเป็นชื่อเบอร์ 1 ของเหล่าอาชญากรที่ต้องการที่พึ่งทางกฎหมาย แค่นำเงินมาวาง ซอลก็พร้อมบันดาลทางรอดให้ทุกอย่าง
ตัวละคร ‘ซอล กู๊ดแมน’ มีความโดดเด่นเหนือตัวละครสมทบอื่นๆ มากเสียจน หลังซีรีส์ Breaking Bad จบ ต้องมีซีรีส์เรื่อง Better Call Saul (ชื่อไทย ‘มีปัญหา ปรึกษาซอล’) แยกออกมาเล่าเรื่องของทนายความคนนี้โดยเฉพาะ เพื่อเผยให้เห็นว่า เดิมที ตัวละครนี้ เป็นทนาย ธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่จุดเปลี่ยนบางอย่างในชีวิตทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจนเป็นทนายคนใหม่ ที่ใครก็ต้องการตัว
โดยเรื่องราวใน Better Call Saul จะเกิดก่อน Breaking Bad หลายปี พูดถึงชีวิตของ ‘ซอล กู๊ดแมน’ ที่ตอนนั้นใช้ชื่อ ‘จิมมี่ แมคเกลล์’ ที่เป็นแค่ทนายตกอับไส้แห้ง ว่าความให้กับใครก็แพ้หมด จึงไม่มีบริษัทกฎหมายที่ไหน รับเขาเป็นทนายในสังกัด ทั้งชีวิตของซอลจึงมีแค่สำนักงานกฎหมายของตัวเองเล็กๆ ที่เป็นห้องรูหนูโดยอาศัยขอยืมพื้นที่ของสปาแห่งหนึ่งเพียงเท่านั้น และเขาก็กินนอนในนั้นเหมือนบ้าน หรือไม่ก็ไปอาศัยนอนในบ้านของพี่ชายในบางครั้ง ภาพชีวิตของ ‘ซอล’ จึงดูเหมือนทนายขี้แพ้ ที่ต่อสู่เท่าไหร่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้สักที
เมื่อต่อสู้แล้วผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และพบว่าแม้แต่พี่ชายที่เป็นทนายความชื่อดัง ก็มองว่า ชาตินี้ จิมมี่ไม่มีวันเป็นทนายที่แท้จริงได้! จึงทำให้จิมมี่เกิดความเสียใจ และกลับไปย้อมใจตัวเองกับ เพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเดิมทั้ง 2 คนเคยร่วมกันเป็นนักต้มตุ๋นสมัยวัยรุ่น และเมื่อเพื่อนเก่ามพบหน้ากัน และไม่รู้จะทำอะไรแก้เซ็ง ทั้งคู่จึงกวนกลับไปทำแบบเดิม โดยจิมมี่กับเพื่อน จะทำหน้าที่พูดโน้มน้าวหลอกให้คนรวยซื้อนาฬิกา เหรียญ หรือของมีค่าอื่นๆ ที่ล้วนเป็นของปลอม ซึ่งช่วงนี้ซีรีส์จะเผยให้เราเห็นว่า จิมมี่มีทักษะการพูดไปเรื่อยเพื่อทำให้เหยื่อหลงเชื่อ จนมีสมญานามว่า 'จิมมีจอมลื่นไหล’ และเขาก็เป็น18 มงกุฎที่เก่งกาจ มีความเป็นธรรมชาติ ยิ่งกว่าตอนที่เขาเป็นทนายความในศาลเสียอีก
จิมมี่กับเพื่อนหลอกเงินคนอื่น และทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่สุดท้ายจิมมี่ก็ยังอยากทำสิ่งที่มีความหมายมากกว่านี้ เขาจึงหยุดความสนุกแบบเด็กๆ และขอลาเพื่อนกลับไปเป็นทนายแบบจริงจังต่อ แต่ในตอนนั้นเอง เพื่อนก็ถามจิมมี่ทำนองว่า เป็นทนายคงรวยน่าดู จิมมี่จึงปฏิเสธแล้วยอมรับว่า ‘เขาไม่ใช่ทนายที่รวย แค่หาเลี้ยงปากท้องได้เท่านั้น’ ซึ่งช่วงนี้เอง เพื่อนของจิมมี่ก็สวนมาว่า “นายเป็นทนาย แต่ไม่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำงั้นหรือ นายทำผิดวิธีแล้ว”
ในตอนนั้น จิมมี่ยังไม่ได้คิดอะไรมากกับประโยคนี้ และกลับไปทำงานทนายต่อ แต่เหมือนว่าบางอย่างในตัวเขาเรียกร้องให้กลับไปเป็น'จิมมีจอมลื่นไหล’ และในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า จริงๆ ตัวเองอาจไม่ได้สามารถเป็นทนายน้ำดีเหมือนกับคนในครอบครัว แต่เขาจะเป็นทนายจอมลื่นไหลที่ไปไกลกว่านั้นได้
เมื่อยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ บวกกับหลายเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิตหลังจากนั้น จิมมี่ จึงค่อยๆ เดินสู่เส้นทางใหม่ ซึ่งก็คือ ‘วงการอาชญากร’ และหลังจากนั้นจิมมี่จะมุ่งแต่การหาเงินให้ได้มากขึ้น หลอกลวงให้มากขึ้น และหาวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะคู่แข่ง จนเขากลายเป็น ทนายไร้ยางอาย แต่มีเงินและเส้นสายมากมาย จนเป็น ‘ซอล กู๊ดแมน’ ที่ปรากฏให้เราเห็นใน Breaking Bad
แม้ Better Call Saul จะเป็นซีรีส์ที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงถึงการนำเสนอชีวิตในอาชีพทนายแบบเกินจริงไปบ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซีรีส์นั้นมีความยอดเยี่ยมในเนื้อหาอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือ ‘การเป็นทนายอย่างแท้จริง’ อาจไม่ใช่แค่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายอย่างถูกต้อง หรือมีจริยธรรมตามวิชาชีพเท่านั้น แต่ในหลายๆ ครั้ง ทนายที่แท้จริงอาจต้อง กล้าใช้แนวทางที่ไม่แปลกประหลาดในการเอาชนะคดี เล่นละครได้เมื่อจำเป็น และไม่ลังเลที่จะใช้ความเป็น 18 มงกุฎเพื่อให้ตัวเองและลูกความรอดไปด้วยกัน หรือถ้าแบบบริการดีสุด ๆ ทนายก็ควรเตรียมที่กบดานให้ลูกความที่เป็นอาชญากรด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ‘ซอล’ ดลบันดาลให้ได้ หากลูกความมีเงินถึง
หากอยากเห็นมุมเทาๆ หรือวิธีหาเงินของอาชีพทนาย ที่หาดูได้ยาก Better Call Saul คือซีรีส์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง และถ้าคุณเป็นอาชญากรคุณก็ควรมีทนายอาชญากรแสนฉลาดอย่าง ‘ซอล กู๊ดแมน’ อยู่เคียงข้าง เมื่อมีปัญหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง