เศรษฐกิจไทย อาการโคม่า หวังยาแรง "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" ชุดใหญ่ไฟกระพริบ

ใครที่ติดตามข่าวสารทางโลกออนไลน์ จะเห็นว่าช่วงนี้มีการแชร์ และโพสต์ถึงบรรยากาศตามห้างสรรพค้าหลายแห่ง และร้านอาหาร ที่เงียบเหงามากๆ โดยเฉพาะบน แอปพลิเคชันTikTok ที่มีการถ่ายภาพบรรยากาศพร้อมกับคำบรรยายว่า “นี่ห้างหรือป่าช้า” ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว หลายร้านมีการลงคลิปประชดประชัน พร้อมคำบรรยายว่า ใจเย็นๆต่อคิวกันหน่อย ทั้งๆที่บรรยากาศหน้าร้านแทบไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว หลายรายโอดครวญว่าจะตายกันหมดแล้ว นี่คือ ….พิษของเศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างหนัก ถึงหนักมาก ถ้าไม่ได้ยาแรง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ ณ บัดนาว

มาเช็กกันรายธุรกิจว่าอาการเป็นอย่างไร?

ในขณะเดียวกันหลายสำนักออกมาปรับประมาณการ เศรษฐกิจไทย ปี2567 ลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2567 เหลือโต 2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนเมษายน ที่ 2.8% ในส่วนของภาคธุรกิจมีโอกาสปรับตัวลดลงเกือบทุกเซ็กเตอร์ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2567 สถานการณ์หนัก ยอดขายถดถอยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 ล่าสุดยอดขายสะสมช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 2567 มีทั้งสิ้น 260,365 คัน ลดลง 23.8% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

กลุ่มรถยนต์นั่งมียอดขาย 101,589 คัน ลดลง 17.9% รถปิกอัพซึ่งเป็นโปรดักต์ แชมเปียน และเป็นสินค้าหลักของไทยมายาวนาน มีการถดถอยค่อนข้างรุนแรงลดลง 40.8% ด้วยยอดขาย 75,510 คัน

ขณะที่ยอดขายรายเดือน ของเดือน พ.ค. พบมีตัวเลขในระดับต่ำที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในตลาดรถยนต์ไทย ทุกยี่ห้อมียอดขายรวมกัน 49,871 คัน ลดลง 23.4% จากเดือน พ.ค.2566 โดยตลาดรถยนต์นั่งมียอดขาย 18,686 คัน ลดลง 28.1% จากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนรถปิกอัพ 1 ตัน มียอดขาย14,832 คัน ลดลง 33.9%

โดยสาเหตุหลักๆ เพราะสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวช้า และการปฏิเสธสินเชื่อสถาบันการเงินยังคงตัวในระดับสูง จากปัญหาหนี้เสียหรือเอ็นพีแอล และหนี้ครัวเรือนที่สูงในรอบ 2 ปี กระทบถึงผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อ

อสังหาฯวิกฤตยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่ง

ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พบว่า คอนโดกทม.เปิดตัวต่ำสุดในรอบ15 ปี หลังยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่ง ค่ายอสังหาฯ ขอแตะเบรกชะลอการลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯ โดย “ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า  ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯไตรมาสแรกที่ผ่านมาค่อนข้างซบเซา

โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมใหม่เปิดตัวเพียง 3,288 ยูนิต ซึ่งเรียกได้ว่ามีซัพพลายน้อยสุดในรอบ 15 ปี! ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงปี 2566 มีการชะลอตัวช่วงไตรมาส 3 หลังจากนั้นดีเวลลอปเปอร์พยายามที่จะปล่อยซัพพลายใหม่ออกมาช่วงไตรมาส 4 แต่สุดท้ายจำนวนซัพพลายที่ออกมา 31,000 ยูนิต ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีซัพพลายใหม่จำนวน 40,000 ยูนิต

จากผลสำรวจพบว่า ไตรมาส 1 ปี 2567 บรรยากาศตลาดยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และ “ไม่มี” มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ  มีแต่ปัจจัยลบที่รุมเร้าทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อ “ต้นทุน” ของผู้ประกอบการและ “คนซื้อ” ที่สำคัญอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ราคาต่อยูนิตต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตัวเลขปฏิเสธสินเชื่อสูง 60-70%  ปัจจัยลบดังกล่าวดีเวลลอปเปอร์มองว่า ดีมานด์ในตลาดกรุงเทพฯ ไม่แข็งแรงพอที่จะดูดซับซัพพลายคอนโดมิเนียมใหม่ได้

จากการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังได้มากระทบอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มาจากแรงกระทบ โครงการอสังหาฯ ชะลอตัวลง เนื่องจาก'กำลังซื้ออ่อนแอสะสม' ส่วนภาคค้าปลีก ก่อนหน้านี้ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางในปีนี้ค้าปลีกมีโอกาสที่จะขยายต่ำกว่าจีดีพีที่ประเมินกันไว้ในระดับ 2-3% หากภาครัฐบาลยังไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาเรื่องสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาตีตลาดจำนวนมาก  เนื่องจากกลุ่มสินค้าเหล่านี้ ไม่มีมาตรการทางภาษีมาดูแล จึงเป็นช่องว่างทำให้สินค้าจำนวนมหาศาลแห่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ง่าย

นอกจากการจัดการปัญหาดังกล่าว สิ่งที่รัฐจะน่าจะต้องหาทางแก้ไขคือการหามาตรการดึงต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในไทยยาวนานขึ้น ซึ่งอาจจะรวมถึงการใช้มาตรการทางภาษีมากระตุ้น เช่น การจัดทำดิวตี้ฟรีโซน อย่างพื้นที่ภูเก็ต เพื่อประเมินตลาดและผลตอบรับ ร่วมกระตุ้นภาคค้าปลีกและท่องเที่ยวไปด้วยกัน

หุ้นไทยครึ่งหลังของปี 2567 อาจไม่สดใส

ด้านตลาดทุนไทย บล.บัวหลวง วิเคราะห์หุ้นไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2567 คาดว่าอาจไม่สดใสนัก นักลงทุนขาดความมั่นใจ จากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจ กำไร บจ.เข้าสู่รอบต่ำสุด การเบิกจ่ายงบประมาณต่ำ ฯลฯ

ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยตอนนี้ กำลังอ่อนแรงอย่างมาก ยังรอความหวังจากภาครัฐที่จะเร่งอัดยาแรงปั๊มหัวใจเศรษฐกิจไทยในเร็ววันนี้ !!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รมช.คลัง ยอมรับกู้เพิ่มขึ้นจริง ชี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

• อบก. ยกระดับคาร์บอนเครดิตไทย สร้างเศรษฐกิจไทยยั่งยืนสู่อนาคต

• ม.หอการค้า คาดเศรษฐกิจไทยปี 67 โตถึง 4% หากมีแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"