svasdssvasds

รมช.คลัง ยอมรับกู้เพิ่มขึ้นจริง ชี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

รมช.คลัง ยอมรับกู้เพิ่มขึ้นจริง ชี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

รมช.คลัง ยอมรับกู้เพิ่มมากขึ้นจริงแต่ชั่วคราวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ไม่รอให้ถึงจุดตกต่ำก่อน - ยืนยันมีกลไกกฎหมายรองรับกรณีเกิดวิกฤตอื่น

SHORT CUT

  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังยอมรับว่า ในงบประมาณปี 2568 มีการกู้เงินมากขึ้น
  • โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการใช้กลไกที่ยอมให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มเติม
  • เพราะพบว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำ ไม่เป็นไปตามศักยภาพ รัฐบาลจึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ สร้างสภาพคล่อง

รมช.คลัง ยอมรับกู้เพิ่มมากขึ้นจริงแต่ชั่วคราวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ไม่รอให้ถึงจุดตกต่ำก่อน - ยืนยันมีกลไกกฎหมายรองรับกรณีเกิดวิกฤตอื่น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระแรก ถึงการดำเนินโครงการ Digital Wallet ว่า รัฐบาลไม่กังวลถึงการเสียหน้า เพราะโครงการต่าง ๆ รัฐบาลมุ่งหวังดำเนินการเพื่อประชาชน เพราะพบว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำ ไม่เป็นไปตามศักยภาพ รัฐบาลจึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ สร้างสภาพคล่อง และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังทุกความเห็น และเข้าใจถึงข้อจำกัดต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า โครงการดังกล่าว ไม่ใช่การคิดไปทำไป แต่เป็นการคิดนอกกรอบ เพื่อวางรากฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล และวางระบบเชื่อมโยงทางการเงิน  มีแอพพลิเคชั่นกลางที่รองรับการทำงานอย่างเป็นระบบ กระตุ้นให้ประชาชน 50 ล้านคนมาลงทะเบียนกับรัฐ ทำให้ในอนาคตสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนในรูปแบบดิจิทัลกับบริการต่าง ๆ ของภาครัฐได้ทุกประเภท

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังยอมรับว่า ในงบประมาณปี 2568 มีการกู้เงินมากขึ้น แต่เป็นการกู้มากขึ้นชั่วคราวเท่านั้น เพื่อนำมาดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และที่สำคัญโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการใช้กลไกที่ยอมให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มเติม เพื่อสร้างเม็ดเงินมาหมุนเวียนมาทางเศรษฐกิจ

ส่วนที่มีข้อห่วงใยเมื่อกู้เงินแล้วจะขาดดุลเต็มเพดาน ในกรณีที่เกิดวิกฤติ จะไม่สามารถปรับตัวรองรับได้นั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความมั่นใจว่า ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการภาครัฐ ที่จะสามารถรองรับวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงไม่อยากรอให้เศรฐกิจลงไปในจุดที่ตกต่ำ แล้วมาใช้เงินเยียวยา เพราะจะต้องใช้งบประมาณสูงกว่าอย่างมาหศาล วันนี้ จึงมีความเป็นที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน จะต้องใช้พื้นที่ทางการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนกลับมามีเงินจับจ่ายใช้สอย และให้เศรฐกิจกลับมาหมุนเวียนอีกครั้ง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังชี้แจงถึงงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ ที่ถูกกล่าวอ้างถูกตัดงบถึง 167,000 ล้านว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบการถูกตัดแต่อย่างใด

related