svasdssvasds

อังกฤษค้นพบซากฟอสซิล อิกทิโอซอรัส หรือ มังกรทะเล บริเวณอ่างเก็บน้ำ

อังกฤษค้นพบซากฟอสซิล อิกทิโอซอรัส หรือ มังกรทะเล บริเวณอ่างเก็บน้ำ

ค้นพบซากฟอสซิล อิกทิโอซอรัส หรือฉายา มังกรทะเล อดีตนักล่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งท้องทะเลโลกดึกดำบรรพ์ เรื่องราวเป็นมายังไง และประวัติของอิกทิโอซอรัสน่าสนใจอย่างไร

“ฉันโทรหาสภาเทศมนตรีท้องถิ่นและบอกเขาว่า ฉันเจอไดโนเสาร์แล้ว” โจ เดวิสกล่าว เขาทำงานที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติรัตแลนด์ (Rutland) ใกล้เมืองเลสเตอร์ (Leicester)

ระหว่างที่เขาทำงานจัดสวนที่อ่างเก็บน้ำภายในเขตสงวน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ที่ผ่านมา เขาพบเห็นสิ่งผิดปกติโผล่ออกมาจากโคลน

ซากฟอสซิลของ อิกทิโอซอรัส ที่ค้นพบล่าสุดในอ่างเก็บน้ำ ประเทศอังกฤษ Cr.MATTHEW POWER PHOTOGRAPHY / BBC มันไม่ใช่ไดโนเสาร์ แต่มันคือซากฟอสซิลของนักล่าทะเลยาว10 เมตรที่เรียกว่า อิกทิโอซอรัส และดูเหมือนมันจะมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในสหราชอาณาจักร

“ฉันมองลงไปที่สิ่งที่ดูเหมือนก้อนหินหรือสันเขาในโคลน มันดูยาก แต่มันก็มีความแตกต่างอยู่บ้าง แล้วเราก็เหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างที่เหมือนกระดูกขากรรไกร”

สภากล่าวกับนายเดวิสว่า “เราไม่มีแผนกไดโนเสาร์ที่รัตแลนด์ ดังนั้นเราจะหาคนแล้วโทรกลับหาคุณ” ทีมนักบรรพชีวินวิทยาถูกนำตัวเพื่อมาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

พวกเขาสรุปว่ามันคืออิกทิโอซอรัส สัตว์กินเนื้อเลือดอุ่นในท้องทะเล ที่มีระบบการหายใจไม่ต่างจากโลมา และสามารถเติบโตจนมีความยาวได้ถึง 26 เมตร พวกมันอาศัยอยู่ระหว่าง 250 ล้านถึง 90 ล้านปีก่อน ในช่วงต้นของยุคไดโนเสาร์

ดร.ดีน โลแม็กซ์ นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ถูกนำเข้ามาเพื่อเป็นผู้นำการขุดค้น เขาเรียกการค้นพบนี้ว่า “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และเนื่องจากขนาดและความสมบูรณ์ของมัน มันจึงถูกเรียกว่า เป็นหนึ่งในการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บรรพชีวินวิทยาของอังกฤษเลยก็ว่าได้

“โดยปกติเราคิดว่า อิกทิโอซอรัสและสัตว์เลื้อยคลานในทะเลอื่นๆมักจะถูกค้นพบตามแนวชายฝั่งจูราสสิกในดอร์เซ็ทหรือตามชายฝั่งของยอร์กเชียร์ ซึ่งหลายตัวที่ค้นพบที่นั้นมาจากการกัดเซาะของหน้าผา แต่การค้นพบบนแผ่นดินที่ไม่ใช่ชายฝั่งแบบนี้นั้นมันดูผิดปกติมากๆ”

รัตแลนด์อยู่ห่างจากชายฝั่งมากกว่า 30 ไมล์ แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเมื่อ 200 ล้านปีก่อน หรือก็คือสมัยนั้นพื้นที่ตรงนี้อาจถูกปกคลุมไปด้วยมหาสมุทรตื้น แต่เมื่อระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำรัตแลนด์ลดลงอีกครั้งในช่วงปลายฤดูร้อนปี 2021 ทีมนักบรรพชีวินวิทยาได้เข้ามาขุดค้นซากเพิ่มเติม และมันทำให้พวกเขายิ่งสนใจมากขึ้นเป็นพิเศษจากการพบกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่

ดินเหนียวก้อนใหญ่ที่มีหัวของอิกทิโอซอรัสถูกขุดขึ้นมาอย่างระมัดระวังก่อนที่จะปูทับด้วยปูนปลาสเตอร์และวางลงบนเฝือกไม้ ทำให้บล็อกแค่ส่วนหัวนั้นมีน้ำหนักเกือบ 1 ตันได้ ถูกยกออกมาจากโคลนและกำลังตรวจสอบเพิ่มเติม

Nigel Larkin นักอนุรักษ์บรรพชีวินวิทยาและนักวิจัยติดตามของมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง (Visiting Research Fellow of Reading University) กล่าวว่า “ไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้เข้ามารับผิดชอบในการยกตัวอย่างฟอสซิลที่สำคัญและเปราะบางมากๆ มันเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ และก็ท้าทายสำหรับฉัน”

Anglia Water ซึ่งจัดการอ่างเก็บน้ำรัตแลนด์ กำลังองหาเงินทุนเพื่อทำให้ อิกทิโอซอรัสตัวนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่นี้ต่อไปและผู้คนสามารถเข้าไปชื่นชมมันได้ อิกทิโอซอรัส Cr. Nation Geographic Thailand

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกร็ดความรู้เรื่อง "อิกทิโอซอรัส"

ในโลกดึกดำบรรพ์ แผ่นดินผู้ล่าสูงสุดคือไดโนเสาร์ บนฟ้าก็มีเทอโรซอร์ครอบครอง ส่วนผืนน้ำก็มีเจ้า อิกทิโอซอรัสนี่แหละเป็นผู้ครอบครองผืนสมุทร

อิกทิโอซอรัส หรือชื่อวิทยาศาสตร์คือ Ichthyosaurus จัดอยู่ในไฟลัม Chordata เป็นสัตว์เลื้อยคลานในยุคไดโนเสาร์ มีข้อสันนิฐานมากมายกล่าวว่ามันอาจจะอยู่มาก่อนที่จะมีไดโนเสาร์ซะอีก มันเริ่มปรากฏตัวขึ้นเมื่อราวๆ 251 ล้านปีก่อน ในช่วงยุคต้นไทรแอสซิกจนถึงปลายยุคครีเตเชียสหรือราวๆ 20 ล้านปีก่อนที่โลกจะมีไดโนเสาร์กำเนิดขึ้นมา

รูปร่างของมันคล้ายกับกิ้งก่าแต่อยู่ในน้ำชื่อของมันจึงมาจากภาษากรีก โดยคำว่า อิกทิโอ แปลว่า ปลา ส่วนคำว่า ซอรัสหมายถึงกิ้งก่า แต่นั่นเป็นรูปลักษณ์ของมันเมื่อ 100 ล้านปีก่อน ภายหลังวิวัฒนาการของพวกมันเริ่มเหมือนปลามากขึ้น มีกระโหลกศีรษะยาว และดวงตาขนาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น นั่นจึงทำให้พวมันล่าได้ดีในโลกใต้ทะเลที่มีแสงสว่างไม่มากได้ ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางดวงตา 10 นิ้ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าพวกมันมีดวงตาที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดวาฬสีน้ำเงินที่เป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกปัจจุบันยังมีเส้นผ่านศูนย์กลางดวงตาเพียง 6 นิ้วเท่านั้น)

พวกมันกลายเป็นนักล่าที่อยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารใต้พื้นสมุทร พวกมันำความเร็วได้ 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 26 เมตรเลยทีเดียว นั่นจึงเปรียบเสมือนยุครุ่งเรืองของพวกมันก็ไม่ปาน แต่มันก็ต้องดับสูญไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อื่นๆด้วยปัจจัยการล่มสลายคืออุกกาบาตที่ตกมายังโลก และพวกมันก็หายสาบสูญตลอดกาล แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่ามันอาจหายไปเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ได้ แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้น จนตอนนี้ก็ไม่อาจมีใครรู้ได้และยังคงเป็นปริศนาเรื่อยมา

ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : MATTHEW POWER PHOTOGRAPHY / BBC

ที่มาข้อมูล

https://www.bbc.com/news/science-environment-59915689

https://ngthai.com/animals/11711/ichthyosaurs-a-lizard-fish/

https://ngthai.com/animals/9593/sea-monster-may-be-largest/

related