svasdssvasds

ติดป้าย ‘หน้าเศร้า ๆ’ ที่ผลไม้ การตลาดเจาะกลุ่มคนใจบาง ลดขยะอาหารได้จริง !

ติดป้าย ‘หน้าเศร้า ๆ’ ที่ผลไม้ การตลาดเจาะกลุ่มคนใจบาง ลดขยะอาหารได้จริง !

ความเห็นอกเห็นใจคือความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์รูปแบบหนึ่ง แต่จะเป็นยังไงกันนะ เมื่อไต๋ดังกล่าวสามารถนำใช้เป็นลูกล่อลูกชนในการจูงใจลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าที่ใกล้จะหมดอายุแล้ว เพื่อลดขยะอาหาร ไอเดียนี้ทำได้จริง แถมได้ผลดีชะงัดนัก !

หนึ่งในแหล่งที่เกิดขยะอาหารมากที่สุดคือ ซูเปอร์มาร์เก็ต การเฟื่องฟูของอุตสาหกรรมการผลิต ทำให้มีสินค้าออกสู่ท้องตลาดกันชนิดรายวัน และบางครั้ง อาหาร ผัก หรือผลไม้เหล่านั้นก็ไม่ได้ถูกซื้อไป จนกลายเป็นของเหลือ

หลาย ๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตจึงระดมไอเดียกันทุกวิถีทางเพื่อใช้ประโยชน์จากอาหารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปให้กับธนาคารอาหารในท้องถิ่น ส่งไปให้ผู้ยากไร้ หรือแม้กระทั่งส่งมอบให้กับสวนสัตว์ เพื่อเป็นการลด food waste

หนึ่งในไอเดียที่เจ๋ง และน่ายกนิ้วให้มากที่สุดคือการติดป้ายใส่อารมณ์ให้กับสินค้า อย่างที่ให้ในรูปนี้คือ กล้วนทำหน้าบึ้ง ๆ จ้องมองลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมา และทุกครั้งที่มองก็จะเกิดความเห็นอกเห็นใจ กระทั่งใจบางหยิบเข้าตะกร้าไปในที่สุด

*หมายเหตุ กล้วยพูดว่า “พวกเราเป็นคนโสดที่แสนเศร้าสร้อย ช่วยซื้อพวกเราไปทีเถอะนะ”

กลยุทธ์นับว่าน่าสนใจไม่น้อย การศึกษาชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychology & Marketing ได้เปรียบเทียบกล้วยที่ติดป้าย “คนโสดเศร้าสร้อย & คนโสดสุขขี” เพื่อทดลองดูว่ามีผลต่อยอดขายหรือไม่ อย่างไร

ผลลัพธ์แรกแสดงให้เห็นว่า การติดป้ายแสดงอารมณ์สร้างยอดขายได้มากกว่าป้ายที่มีแต่ราคา ขณะที่ป้ายที่มีอารมณ์เศร้าสร้อยถูกซื้อมากที่สุด

โดยเฉลี่ยแล้ว กล้วยที่มีป้ายเศร้าสร้อยติดเอาไว้ด้วย ขายได้เพิ่มขึ้น 58% เทียบกับกล้วยที่ไม่ติดป้าย ขณะที่กล้วนซึ่งติดป้ายคนโสดสุขขี เพิ่มยอดขายได้เพียง 5.4%

ดร.ลิซ่า เอคมันน์ จากมหาวิทยาลัยบาธ (University of Bath) ผู้เขียนการศึกษาชิ้นนี้ อธิบายว่า การนำอารมณ์มาใช้ในป้ายสินค้า สามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความเห็นอกเห็นใจ แถมต้นทุนต่ำ เป็นวิธีที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังลดขยะอาหารได้จริง

คุณล่ะ หากเดินซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ดี ๆ แล้วเห็นไปสบตากับป้ายกล้วยทำหน้าบูดบึ้ง และติดข้อความว่า พวกเราเป็นคนโสดที่แสนเศร้าสร้อย ช่วยซื้อพวกเราไปทีเถอะนะ” จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจจนรีบเอื้อมมือหยิบมาใส่ลงตะกร้าเลยหรือเปล่า ?

 

ที่มา: Phys.org

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

related