แฟน ๆ ลูกหนังขอเชิญมุงทางนี้ นี่คือเรื่องราวของ เฮคเตอร์ เบเยริน” อดีตแข้งปืนใหญ่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ฝีเท้า แต่ยังมีไลฟ์สไตล์ที่ “กรี๊น กรีน” ชนิดที่คุณคาดไม่ถึง
ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าหากเหล่ากันเนอร์ส ได้อ่านบทความชิ้นนี้คุณอาจคิดถึง "The Flash" ผู้นี้โดยไม่รู้ตัว ช่วงเวลา 11 ปี ที่เฮคเตอร์ เบเยรินค้าแข้งกับปืนใหญ่ มีอะไรให้หยิบมาเล่ามากมาย มีทั้งช่วงที่บินสูง และถลาลงต่ำ แต่อย่างไรก็ดี เจ้าตัวยืนยันด้วยตัวเองว่า ช่วงเวลาในรั้วอาร์เซนอล นั้นประกอบสร้างตัวตน ทัศนคติ ให้เขาเป็นเขาในทุกวันนี้
SPRiNG จะพาผู้อ่านทุกคนไปสำรวจการเติบโตของ “เฮคเตอร์ เบเยริน” หนุ่มน้อยจากบาร์เซโลน่า ย้อนไปถึงช่วงเวลา 11 ปี ที่ค้าแข้งกับอาร์เซนอล การเริ่มต้นใหม่กับเรอัล เบติส แล้วคุณจะร้อง “อ๋อ” และเชื่อมโยงได้ว่าทำไมแข้งหน้ามน หนวดเข้มเฟิ้มคนนี้ ถึงหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ย้อนกลับไปในปี 2011 หนุ่มน้อยจากแดนกระทิงดุ ย้ายจากสโมสรที่ฟูมฟักเขามาอย่างบาร์เซโลน่า ไปร่วมทัพปืนใหญ่ ซึ่งมี ‘อาร์แซน เวนเกอร์’ เป็นเฮดโค้ช ณ เวลานั้น เฮคเตอร์ มีอายุเพียง 16 ปี ยังเป็นหนุ่มน้อย ร่างผอมบาง และหนวดยังไม่เฟิ้มเท่าทุกวันนี้
แม้จะย้ายมาอยู่ร่วมทัพปืนใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เส้นทางการค้าแข็งของ เฮคเตอร์ เบเยริน กับอาร์เซนอล ไม่ได้ราบรื่นมากนัก ในปี 2014 เขาก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในตำแหน่งกองหลัง ปักหลักอยู่ที่วิงแบ็คด้านขวา
ในฤดูกาล 2013/2014 เฮคเตอร์ ย้ายไปเล่นกับวัตฟอร์ด (ลีกอังกฤษ) ด้วยสัญญายืมตัว จากนั้นกลับมาค้าแข้งร่วมกับทัพปืนใหญ่จนถึงฤดูกาล 2021/2022 จากนั้น ย้ายไปร่วมทีมเรอัล เบติส (ลีกสเปน) ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล
รวมแล้ว เฮคเตอร์ เบเยริน ลงเล่นให้กับทัพปืนใหญ่ ไปทั้งหมด 239 โดยสามารถคว้าแชมป์ Community Shield ได้ 2 ครั้ง และ FA Cups 3 ครั้ง
เมื่อเดือน ก.พ. ปีนี้ เฮคเตอร์ เบเยริน ได้ออกมาเล่าถึงช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งอยู่ที่ทัพปืนใหญ่ว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อย ๆ ซึมซับแนวคิดเรื่องความยั่งยืน และไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีอาร์แซน เวนเกอร์ เป็นต้นแบบ ซึ่งเฮคเตอร์ยกตัวอย่างความยั่งยืนในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องการเดินทาง
โดยปกติแล้ว เวลาสโมสรต้องไปเตะแมตช์เยือนที่ต่างเมือง เมืองไหนใกล้ สโมสรก็จะจัดให้เดินทางด้วยรถบัส หรือรถไฟ เมืองไหนที่ไกล นักเตะ เฮดโค้ช และสต๊าฟ ก็จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของสโมสรไป ซึ่ง เฮคเตอร์ เบเยริน มองว่า ทุกทีมในพรีเมียร์ลีกสามารถนั่งรถไฟไปเตะทีมเยือนได้
“สมัยที่ผมค้าแข้งที่อาร์เซนอล ทุกครั้งที่เราต้องเตะเกมเหย้ากับลิเวอร์พูล หรือลิเวอร์พูล อาร์แซน เวนเกอร์มักพาเราเดินทางโดยรถไฟ เพราะมันทั้งสะดวกดี และสะอาดกว่ารถมาก” เฮคเตอร์ เล่าถึงอดีต
ยืนยันคำพูดของเฮคเตอร์ด้วยข้อมูลจาก Greenly ซึ่งระบุว่า การปล่อยคาร์บอนของภาคการขนส่ง จะพบว่ากว่า 71% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนมาจากผู้ใช้ถนน ในขณะที่การเดินทางด้วยรถไฟปล่อยคาร์บอนในสัดส่วน 1.8% เท่านั้น
ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน ปี 2020 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เฮคเตอร์ เบเยริน ได้โพสต์ผ่าน X (ณ เวลานั้นคือทวิตเตอร์) ว่า “สำหรับทุกแมตช์ที่เราคว้าชัยมาได้ในฤดูกาลนี้ ผมจะปลูกต้นไม้ 3,000 ต้น เพื่อต่อสู้กับปัญหาการปล่อยคาร์บอน”
เฮคเตอร์ ได้ร่วมมือกับ One Tree Planted องค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งจัดทำโครงการปลูกต้นไม้ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของต้นไม้ต่อระบบนิเวศ โดยต้นไม้จะถูกนำไปปลูกที่ป่าฝนแอมะซอน ซึ่งมีข่าวคราวว่ากำลังถูกลักลอบตัดไม้อย่างต่อเนื่อง
“เราต้องการสถานที่ปลอดภัย และที่ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพ ขอบคุณการสนับสนุนจากสโมสร และแฟนบอล มาปลูกต้นไม้กันเถอะ” เฮคเตอร์ กล่าว
ในฤดูกาล 2020/2021 อาร์เซนอลคว้าชัยไปทั้งหมด 14 แมตช์ รวม 56 คะแนน ถ้ามาลองคำนวณเล่น ๆ ดูแล้ว หากอ้างอิงจากคำพูดของเฮคเตอร์ที่บอกว่าจะปลูกต้นไม้ 3,000 ต้น ในทุก ๆ แมตช์ที่อาร์เซนอลคว้าชัย สรุปแล้ว เฮคเตอร์ปลูกต้นไม้ไปทั้งหมด 42,000 ต้น
เราอาจกล่าวได้ว่าช่วงเวลาที่อาร์เซนอลของ เฮคเตอร์ เบเยริน เป็นช่วงที่ฟูมฟักตัวตนของวิงแบ็คคนนี้ ทั้งในเรื่องทัศนคติ แนวทางการเล่นฟุตบอล วิธีการมองโลก และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่แฝงไปด้วยความยั่งยืนในทุก ๆ การกระทำ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...
ในปี 2022 อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจขายแข้งรายนี้ให้กับบาร์เซโลน่า สนนราคา 20 ล้านปอนด์ ปิดฉาก 11 ปี ในฐานะแข้งปืนใหญ่ และด้านล่างนี้คือคำกล่าวอำลาของ “เฮคเตอร์ เบเยริน” หรือวิงแบ็คที่แฟนปืนใหญ่เรียกว่า “The Flash”
“สวัสดี กันเนอร์ส เหมือนเวลาผ่านไปแค่ 2-3 ปี นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมมาย้ายมาที่ลอนดอน ผมรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านตั้งแต่วันแรก ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเมืองนี้หล่อหลอมให้ผมเป็นผมอย่างทุกวันนี้”
“วันนี้ผมรู้สึกเศร้าใจที่ต้องบอกลาสโมสร แฟน ๆ ทีมงาน นักเตะ และครอบครัวของเราทุกคน ตลอดเวลาที่นี่ ผมมีทั้งช่วงที่บินสูง และร่อนถลาลงต่ำ แต่ผมก็สนุกที่ได้พบเจอกับพวกคุณทุกคน”
“การเป็นนักเตะอาร์เซนอลในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การแบกรับตราสโมสรแห่งนี้ และลงเล่นเพื่อปกป้องมันกว่า 250 แมตช์ต่อหน้าพวกคุณ เป็นเกียรติกับผมเสมอมา”
“ผมขอขอบคุณอาร์แซน เวนเกอร์, ฟร็องซิส กอเกอแล็ง, สตีฟ โรว์ลีย์ ผู้ล่วงลับ, สตีฟ โบลด์นีล, นีล แบนฟิลด์, อูไน เอเมรี, เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก และมิเกล ขอบคุณทีมงานที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้พวกเราพร้อมที่สุด เมื่อลงสนาม”
“นักกายภาพบำบัด โค้ชปรับสภาพร่างกาย แพทย์ เจ้าหน้าที่ดูแลชุดแข่ง พนักงานทำความสะอาด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และทุกๆ คนที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่ทำให้ช่วงเวลาที่นี่น่าจดจำ”
“และที่สำคัญที่สุด ผมขอขอบคุณเดอะกันเนอร์ส ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของพวกคุณ ทั้งในยามดีและยามร้าย ขอบคุณสำหรับความสนุกสนานที่ผมได้ลงเล่นที่เอมิเรตส์”
“การจากลามันเศร้าเสมอ แต่ยังมีเส้นทางใหม่ที่น่าเต้นตื้นรอผมอยู่ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง”
“Once a Gunner, always a Gunner”
เฮคเตอร์ เข้าร่วมทีมบาร์เซโลน่าในฤดูกาล 2022/2023 อยู่ได้เพียง 1 ฤดูกาล ก็ถูกขายให้กับสปอร์ติงลิสบอน จนกระทั่งฤดูกาล 23/24 เฮคเตอร์ เบเยริน ตัดสินใจย้ายเข้าร่วมทัพเรอัล เบติส สโมสรที่เขาเคยไปค้าแข้งเมื่อปี 2021 จากการยืมตัว
ช่วงเวลาในสีเสื้อสีเขียว ทำให้เราจัก เฮคเตอร์ เบเยริน ในมุมมองที่คนไม่เคยล่วงรู้ นั่นคือ เขาเป็นคนที่แคร์สิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ไปไม่น้อยกว่าใคร แถมยังผุดโปรเจกต์มากมาย หรือแม้แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่สร้างอิมแพ็คให้กับคนในสโมสร
ที่สโมสร เรอัล เบติส เฮคเตอร์ เบเยริน สวมเสื้อเบอร์ 2 เล่นตำแหน่งวิงแบ็ค ในฤดูกาลที่แล้ว สโมสรรั้งอยู่ที่อันดับ 7 แต่อย่างไรก็ดี ในโมงยามที่ตัวตน ทัศนคติ ความแน่นอนในชีวิต มีภูมิฐานขึ้นแล้ว เฮคเตอร์กลายเป็นหนุ่มเท่ หนวดเฟิ้ม และเป็นสายแฟตัวพ่อ แต่เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้คือ เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องรักษ์ ๆ ด้วย
ชาวเมืองเซบียา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสโมสรเรอัล เบติส ออกมาเล่าว่า มักเห็นเจ้าตัวปั่นจักรยานจากบ้านไปซ้อมที่สนามซ้อมอยู่เป็นประจำ หากวันไหนไม่อยากปั่นจักรยาน เจ้าตัวก็เลือกจะใช้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
หรือแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างการกำจัดขยะ เจ้าตัวก็ทำการคัดแยก และรีไซเคิลอยู่เป็นประจำ เวลาจะซื้อสินค้า เขาก็จะใช้เวลาคัดสรรสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด และรู้หรือไม่ว่า เฮคเตอร์ยังรับประทานอาหารมังสวิรัติ
“ผมเริ่มเป็นมังสวิรัติเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนแรกแค่อยากลองทำดูเพื่อดีท็อกซ์ร่างกาย ผมวางแผนว่าจะกินเนื้อสัตว์เป็นของว่าง หลังจากเป็นมังสวิรัติมาหนึ่งเดือน ผมรู้สึกแข็งแรงขึ้น ไม่ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าอีกต่อไป ผมเริ่มรู้สึกมีพลังมากขึ้นในสนาม และเริ่มสังเกตเห็นความแตกต่างที่แท้จริง” เฮคเตอร์ กล่าว
นอกจากนี้ เฮคเตอร์ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Forever Green ที่สโมสรริเริ่มมาประมาณ3 ปีที่แล้วด้วย โดยโปรเจกต์นี้ สโมสรตั้งโจทย์ใหญ่ไว้ว่าทำยังไงก็ได้ให้เรอัล เบติส กลายเป็นสโมสรที่เป็นเบอร์ 1 ด้านความยั่งยืน ด้วยว่าตระหนักถึงผลพวงของปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดจากกิจกรรมมนุษย์
นับตั้งแต่ก่อตั้ง สโมสรได้กิจกรรมดี ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปแล้วหลายอย่าง อาทิ ทำความสะอาดพื้นที่ธรรมชาติ ติดตั้งสกู๊ตเตอร์ และจักรยานไฟฟ้าให้พนักงานของสโมสร รีไซเคิลขยะภายใน ทั้งยังส่งเสริมให้แฟนบอลปั่นจักรยานมารับชมการแข่งขัน
“เบติสเป็นตัวอย่างให้กับสโมสรใหญ่ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะที่สเปน ผมภูมิใจมากกับงานที่สโมสรทำอยู่ และวิธีที่สโมสรส่งเสริมพฤติกรรมด้านความยั่งยืนให้กับแฟนบอล” เฮคเตอร์ กล่าว
ตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์ Forever Green มา สโมสรได้ศึกษา ควบคุม และวัดปริมาณคาร์บอนฟุ๊ตพริ้นท์ไปพร้อม ๆ กัน โดยในฤดูกาล 2023/2024 สโมสรสามรถลดการปล่อยคาร์บอนได้ 31% เมื่อเทียบกับฤดูกาล 2018/2019 กล่าวคือสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้แล้วกว่า 1,000 ตันคาร์บอน
ที่เล่ามานี้คือ วิถีชีวิตที่นักฟุตบอลสุดเฟี้ยวอย่าง เฮคเตอร์ เบเยริน เลือกใช้ แม้คนจะบอกว่านักฟุตบอลตั้งใจเล่น 90 นาทีในสนามให้ดีก็พอ แต่เรื่องราวของเฮคเตอร์ยืนยันแล้วว่า ไม่จริง นอกสนามเราก็สามารถตั้งใจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้คนรอบตัว สิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นได้
เชื่อว่าแฟนลูกหนังชาวไทย มีทีมรักในดวงใจกันอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วเป็นสโมสรชั้นนำ ไม่ว่าจะอยู่ในศึกพรีเมียร์ลีก สเปน หรือเยอรมนี ก็ตาม แต่สโมสรที่เฮคเตอร์ เบเยริน ตัดสินใจซื้อหุ้นเป็นทีมเล็ก ๆ ในดิวิชัน 2 ของแดนผู้ดี ชื่อว่า “Forest Green Rovers F.C.”
สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี 1898 แม้ไม่ใช่สโมสรชั้นนำ แต่หากวัดกันเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว ทีมนี้ไม่เป็นสองรองใคร จนถึงวันนี้ Forest Green Rovers F.C. ก่อตั้งมา 126 ปีแล้ว สิ่งที่ SPRiNG อยากนำเสนอในเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้คือ ‘สนามฟุตบอล’
สนามฟุตบอลของสโมสรแห่งนี้มีชื่อว่า ‘Eco Park Stadium’ นี่คือสนามฟุตบอลแห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมด ข้อดีของการใช้ไม้คือ ช่วยแก้ปัญหาคาร์บอนฟุตฟริ้นท์จากคอนกรีต แต่ยังมีความแข็งแรง ทนทาน และปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย
โดยสถาปนิกที่เป็นคนออกแบบสนามฟุตบอลแห่งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นราชินีแห่งความโค้ง ‘Zaha Hadid’ ผู้ล่วงลับนั่นเอง สนามฟุตบอลแห่งนี้สามารถจุคนได้ 5,000 ที่นั่ง บริเวณรอบ ๆ สนามมีต้นไม้ปลูกไว้ให้ร่มเงา และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ราว 500 ต้น
“Forest Green Rovers พิสูจน์ให้สโมสรที่มักอ้างว่า “เราไม่มีมีทรัพยากรที่จะยั่งยืนได้” เห็นว่ามันเป็นไปได้ ด้วยสนามกีฬาแห่งใหม่นี้ สโมสรได้ทำงานที่น่าทึ่งมาก”
ในปี 2021 สนามฟุตบอล Eco Park Stadium ได้รับรางวัล AR Future Project Awards 2021 ซึ่งมอบให้กับสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นบนหลักคิดความยั่งยืน ได้ฟังแบบนี้แล้วจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฮคเตอร์ เบเยริน ถึงตัดสินใจซื้อหุ้นสโมสรแห่งนี้
หวังว่าเรื่องราวของ เฮคเตอร์ เบเยริน วิงแบ็คจากทัพเรอัล เบติส จะเพิ่มแง่มุมใหม่ ๆ ต่อแข้งรายนี้ เขาไม่ดีมีดีแค่ฝีเท้า ใบหน้าหล่อเหลา หรือหนวดที่ยาวเฟื้อย แต่สิ่งละอันพันละน้อยที่ชายผู้นี้ทำให้กับคนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม รวมถึงโลกกว้างใหญ่ใบนี้ น่าจะเพียงพอที่จะได้รับคำชื่นชม และสนับสนุนแล้ว
ที่มา: Forest Green Rovers, BBC, allfootball, football london
ข่าวที่เกี่ยวข้อง