คุยกับ “คณิน ไพรวันรัตน์” หัวหน้าแผนกการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผู้เปลี่ยนยาเก่าหมดอายุ ให้กลายเป็นเครื่องราง "พระธันวันตริ" ในนามพระยา+ ที่เจ้าตัวกล่าวกับ Keep The World ว่าได้รับแรงบันดาลมาจากยาของแม่ที่เหลือทิ้ง
ยาหมดอายุนั้นโดยปกติแล้ว จะถูกนำไปทิ้งในถังขยะอันตราย จากนั้นก็จะถูกส่งไปเผา จะไม่มีการนำไปฝังกลบเด็ดขาด เพราะสารเคมีในยาอาจปนเปื้อนไปยังดินและน้ำบริเวณรอบ ๆ หลุมฝังกลบ และสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถนำยาเหล่านั้น มาต่อยอดและสร้างคุณค่าใหม่ให้กับมันได้?
พระยา+ หรือ WS:E1+ คือโปรเจกต์ของ “คณิน ไพรวันรัตน์” หัวหน้าแผนกการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผู้เปลี่ยน “ยาหมดอายุ” ให้กลายเป็นเครื่องราง “พระธันวันตริ” เทพแห่งอายุรเวทในศาสนาฮินดู
“เป็นโปรเจกต์ส่วนหนึ่งของปริญญาเอกครับ ผมเชื่อว่าความเชื่อ ความศรัทธา สามารถช่วยสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมได้ ผมก็เลยตั้งพระยา+ ขึ้นมา”
ทุกสิ่งล้วนมีที่และแรงบันดาลใจทั้งสิ้น เช่นเดียวกับโปรเจกต์พระยา+ อ.คณินเล่าให้ฟังว่า เห็นยาเหลือทิ้งวนเวียนอยู่รอบตัวมานาน เพราะที่บ้านมีคนแก่เยอะ ซึ่งเราก็คงทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุและยาแทบจะเป็นของคู่กัน
“ช่วงแรกผมก็ไม่ได้มียาเยอะขนาดนั้น ต้องไปขอที่โรงพยาบาลสิรินธร เพราะทางโรงพยาบาลก็มียาเหลือทิ้งอยู่เยอะ เป็นยาที่ได้รับบริจาคบ้าง หรือยาหมดอายุบ้าง ผมก็เอามาต่อยอดในจุดนี้”
จริง ๆ แล้ว พระยา+ เปิดรับยาเหลือทิ้งจากภาคประชาชนด้วย ใครที่มียาเหลือทิ้งที่บ้านเยอะ ๆ สามารถนำไปหย่อนใส่โหลแก้วให้กับอ.คณิน ที่งาน Bangkok Design Week 2024 ได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 ก.พ. 67
"ผมไปศึกษาว่ายาที่ทิ้งไปมันส่งผลกระทบอะไรต่อธรรมชาติบ้าง ทีนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยเพราะตัวยาที่มันถูกทิ้งแบบผิดวิธีด้วยการฝังกลบ มันก็ละลายลงสู่ในดินและน้ำ"
"น้ำดื่มเราก็ปนเปื้อนตัวยา ทีนี้มันก็จะส่งผลต่อมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ยาทำหมัน ยาคุม มันก็จะทำให้คนเป็นหมันมากขึ้น มีลูกยากมากขึ้น"
“อ่านว่าพระยาเฉย ๆ ที่จริงผมตั้งใจให้อ่านได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย คำว่า พระยาอ่านเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า ‘WS:E1+’
E+ แบ่งย่อยได้อีก 4 E(s)
จะเห็นได้ว่าอาจารย์คณินพยายามผนวกคุณค่าของยาเหลือทิ้ง ให้เป็นเครื่องสำหรับสายมู ฉะนั้น หากจะเลือกเทพสักองค์ก็ต้องเป็นเทพที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องหยูกยา อ.คณิน จึงเลือก “พระธันวันตริ” เทพเจ้าแห่งการแพทย์และอายุรเวทในศาสนาฮินดู มาเป็นเครื่องรางลำดับที่ 1 ในนามพระยา+
“ผมพยายามยึดโยงยากับตัวเทพ ตอนแรกว่าจะทำพระพิฆเนศก็จะดูไม่เข้ากับมวลสาร (ยา) แต่ ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องขายมู แต่จริง ๆ ผมแอบไปมูมาด้วย”
“ผมใช้ครูช่างที่เกี่ยวกับการทำปูนปั้นโบราณมาช่วยในการคิดค้นวัสดุ ตอนแรกผมพยายามทำวัสดุให้มันใช้ตัวยามากที่สุดในหนึ่งองค์ ให้มีส่วนผสมของวัสดุอื่น ๆ น้อยที่สุด”
“เพื่อยามันจะได้ไม่ต้องถูกทิ้ง พอคิดเองทำเอง ผลคือ มันขึ้นรูปไม่สวย ไม่เนียน ก็เลยใช้กระบวนการอัดแบบโบราณ อยากรักษาของเก่าไว้ แต่ก็มีเทรนด์สมัยใหม่ผสมอยู่”
“3.5 เซนติเมตร ”
“ประมาณ 3.5 กรัม”
“คุมไม่ได้เพราะยาที่ได้มามัน Random มาก ๆ อย่างยาที่โรงพยาบาลเขาบริจาคมาให้ผมปนกันไปหมดเลย มีทั้งยาความดัน ยากระดูก ยาสมุนไพรก็มี ผมก็บดรวมกันหมดเลย”
“อย่างที่บอก ผมได้ยาที่หมดอายุ มันก็จะมาแบบนี้เลย มีชื่อคนติดมาด้วย ผมเลยคิดว่าทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกับการกินยาอยู่แล้ว เลยใช้แพคเกจแบบนี้”
“ตอนแรกจะใช้แบบนี้ด้วยซ้ำ จะได้ไม่ต้องสร้างขยะเพิ่ม แต่ว่ามันติดชื่อ ก็เลยคิดว่าเปลี่ยนมาใช้แบบนี้ดีกว่า แล้วก็ใช้ถุงให้เล็กที่สุด”
“ความเชื่อ ความศรัทธามันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม สมัยก่อนอาจจะมีเรื่องของสู้รบปรบมือกัน พระเครื่องก็จะโด่งดังในเรื่องยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า แต่ปัจจุบันมันก็เปลี่ยนไป สังคมไม่ได้รบกันแล้ว ผมสงสัยว่าคน Gen Z เขาเชื่อแบบไหน เขาต้องการอะไร”
“สังคมเป็นแบบนี้ ความเชื่อเปลี่ยนไปไหม เลยคิดว่าถ้าเราลองเอาคน Gen Z มาออกแบบพระเครื่องจะเป็นอย่างไรนะ”
“จากที่ผมไปศึกษากรณีตัวอย่างมา บางคนก็บูชา Art Toy พระพิฆเนศสายมูอะไรแบบนี้ ก็เลยอยากลองให้คน Gen Z มาลองดีไซน์พระเครื่องแบบใหม่ ผมก็เปิดรูปดั้งเดิมให้ "Nice Joy" ดู แล้วเขาก็เอามาดีไซน์ให้มันดูมีความร่วมสมัยมากขึ้น
“ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า (อ.คณินหัวเราะ) แต่ว่าตอนนี้เหลือน้อยแล้วครับ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าเครื่องรางของเรา 99 องค์จะหมดหรือเปล่า แต่ผ่านไปอาทิตย์เดียวก็เหลือน้อยมาก”
“ตอนนี้ไม่น่าถึง 20 องค์แล้ว พอเปิดเพจก็มีคนสนใจมากยิ่งขึ้น”
ผมคิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำรูปแบบอื่นด้วย
แอบแง้ม ๆ หน่อยได้ไหม ว่าเป็นอะไร?
“อาจจะเป็นยันต์ หรืออะไรแบบนี้ ซึ่งก็ยังยึดโยงกับเรื่องความเชื่ออยู่ ผมทำเรื่อง Product Design ก็ไม่คิดจะหยุดอยู่ที่อันนี้อันเดียวแน่ ๆ”
สำหรับใครที่อยากไปพิสูจน์ด้วยตาเนื้อของตัวเอง สามารถไปพบเจอ แลกเปลี่ยนกับอาจารย์คณิน ไพรวันรัตน์ กันได้ที่งาน Bangkok Design Week ที่บริเวณศาลเจ้าหลีตี้เมี๊ยว ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567
อ.คณินกล่าวกับ Spring ว่า ไม่ต้องการให้เครื่องราง พระยา+ เป็นไปในลักษณะของพุทธพาณิชย์ และเท่าที่ผู้เขียนได้สัมผัสผ่านการพูดคุย อาจารย์กำลังสนุกในการใช้วิชาความรู้ที่มี มาเสริมสร้าง ต่อยอด และเพิ่มมูลค่าให้กับยาเหลือทิ้ง เพื่อมิให้กลายเป็นขยะออกสู่สิ่งแวดล้อม
“ให้เครื่องรางเป็นของที่ระลึกแล้วกัน...ระลึกว่าเราไม่ควรทิ้งยา”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง