คาซัคสถานค้นพบแรร์เอิร์ธหรือแร่หายาก 1 ล้านตันใหญ่สุดในประเทศ
คาซัคสถานค้นพบแหล่งแร่แรร์เอิร์ธหรือแร่ธาตุหายาก ขนาดใหญ่สุดของประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจโลกที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรล้ำค่าของภูมิภาคเอเชียกลาง
SHORT CUT
-
คาซัคสถานประกาศการค้นพบแหล่งแร่แรร์เอิร์ธหรือแร่ธาตุหายากขนาดใหญ่สุดของประเทศ ถือเป็นการค้นพบที่มีขึ้นท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจโลกที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรล้ำค่าของภูมิภาคเอเชียกลาง
-
คาดว่าปริมาณแร่หายากที่ค้นพบมีมากถึง 1 ล้านตัน ซึ่งจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศแถบเอเชียกลางแห่งนี้เป็นอย่างมากในอนาคต
-
กระทรวงอุตสาหกรรมของคาซัคสถาน คาดการณ์ว่า ปริมาณแร่หายากที่พบ ที่ได้รับการตั้งชื่อว่า “คาซัคสถานใหม่” (New Kazakhstan) อาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 20 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและวิจัยเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้คาซัคสถานเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแหล่งแร่หายากมากที่สุดในอนาคต
คาซัคสถานค้นพบแหล่งแร่แรร์เอิร์ธหรือแร่ธาตุหายาก ขนาดใหญ่สุดของประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจโลกที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรล้ำค่าของภูมิภาคเอเชียกลาง
รัฐบาลคาซัคสถานเปิดเผยการค้นพบแหล่งแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) หรือแร่หายาก แหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ คาดมีปริมาณแร่หายากถึง 1 ล้านตัน ซึ่งจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศแถบเอเชียกลางแห่งนี้เป็นอย่างมากในอนาคต
แหล่งแร่หายากนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคคารากันดา ทางตอนกลางของคาซัคสถาน โดยแร่ที่พบ ประกอบด้วย ซีเรียม, แลนทานัม, นีโอดิเมียมและอิตเทรียม
สำหรับแร่แรร์เอิร์ธ ประกอบด้วย แร่ 17 ชนิดที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว และ เป็นที่ต้องการอย่างมากของหลายประเทศ อาทิ จีน รัสเซีย สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU)
นอกจากนี้ สหภาพยุโรป, รัสเซีย, จีนและตุรกี ยังเป็นกลุ่มประเทศที่แข่งขันกัน เพื่อมีอิทธิพลในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหภาพยุโรป ซึ่งมีเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ที่ให้ความสนใจในแร่หายากและทรัพยากรธรรมชาติในภูมิภาคแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมของคาซัคสถาน คาดการณ์ว่า ปริมาณแร่หายากที่พบในแหล่งแร่ดังกล่าวที่ได้รับการตั้งชื่อว่า “คาซัคสถานใหม่” (New Kazakhstan) อาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 20 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและวิจัยเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้คาซัคสถานเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแหล่งแร่หายากมากที่สุดในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คาซัคสถาน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ยังไม่มีเทคโนโลยีที่จำเป็น ในการใช้ประโยชน์จากแหล่งแร่ธาตุหายากและยังต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ
การประกาศการค้นพบดังกล่าวยังเกิดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-เอเชียกลางครั้งแรกที่จะจัดขึ้นในอุซเบกิสถาน โดยจะเป็นการพบหารือกันระหว่างผู้นำ 5 ชาติในเอเชียกลาง ได้แก่ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน พร้อมด้วยนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรปด้วย
ที่มา: CNA
