รู้หรือไม่? กะหล่ำปลีฝอยบาร์บีคิวพลาซ่า มีวิธีการลดขยะอาหาร แม้แจกไม่อั้น

รู้หรือไม่? พี่บาร์บีกอน หรือบาบีคิวพลาซ่า นอกจากตัวจะเขียวแล้ว ใจยังเขียวด้วย เพราะล่าสุด เขาประกาศมาแล้ว ว่าจะดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด และก็ไม่ใช่รักษ์โลกแค่บริษัท แต่ยังส่งเสริมให้ลูกค้ารักษ์โลกแบบไม่รู้ตัวด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสไปฟังคุณจรูญโรจน์ เทพที ประธานบริหารสายงาน-ซัพพลายเชนของบาร์บีคิวพลาซ่า ที่ได้เปิดเผยให้ฟังถึงเบื้องหลังการทำงานว่าบาร์บีคิวพลาซ่ารักษ์โลกยังไงบ้าง

คุณจรูญเล่าว่า บริษัทได้มีภารกิจที่จะส่งมอบความสุขผ่านมื้ออาหารเพื่อความยั่งยืนผ่านแนวคิดที่ชื่อว่า Triple Bottom Line (3P) ได้แก่ People, Planet และ Profit มุ่งสู่การเป็นธุรกิจที่ดีกับมนุษย์และโลก

P-People ทุกคนรอบบาร์บีคิวพลาซ่าต้องมีความสุขและเป็นคนมีคุณภาพ

เน้นการบริหารธุรกิจที่ให้ “คน” มาเป็นอันดับหนึ่ง ผ่านแนวคิด “เก่ง ดี มีสุข” สร้างความสุขที่ยั่งยืนทั้งกับพนักงานและลูกค้า มีการพัฒนาศักยภาพ ความสามารถ ทักษะของพนักงานให้เป็นคนมีคุณภาพของสังคม และที่สำคัญคือส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา

เพราะบาร์บีคิวพลาซ่าได้มีศูนย์การเรียนเป็นของตนเอง ชื่อว่า ศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น สำหรับนักเรียนระดับ ปวช. และมีศูนย์อบรมฟู้ดแพชชั่นที่มีหลักสูตรสุขาภิบาลอาหารและการจัดการร้านอาหาร โดยผู้เรียนจะได้ประสบการณ์จากการทำงานกับบาร์บีคิวพลาซ่าแถมยังสร้างรายได้ระหว่างเรียนได้ด้วย

P-Planet ช่วยลดโลกร้อน ด้วยการลด Food waste แม้แจกกะหล่ำปลีให้ลูกค้าแบบบุฟเฟต์

เป้าหมายขององค์กรคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2573 และตั้งเป้าว่าจะเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 จึงมีแนวคิดใหม่ชื่อว่าจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร (From Farm to Table) เป็นการสร้างห่วงโซ่ที่ยั่งยื่น โดยจะเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร ร้านอาหาร และผู้บริโภค

• มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่สำนักงานและโรงงาน ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการได้ถึง 30% ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 400 tCO2e ต่อปี
• ลดขยะอาหารที่จะเดินทางไปยังหลุมฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) อาทิ นำเศษเนื้อตัดแต่งมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งกระบวนการนี้ลดการนำเศษเนื้อไปทิ้งได้มากถึง 1.8 ตัน หรือคิดเป็น 918 kgCO2e
• กะหล่ำปลีฝอยบุฟเฟต์ที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าจะมีการแบ่งสัดส่วน โดยถ้วยแรกจะให้ลูกค้าทานในปริมาณ 125 กรัม หลังจากนั้นจะลดปริมาณ 80 กรัม เผื่อลูกค้าทานไม่หมด เอาเท่าที่ลูกค้าทานไหว ซึ่งตั้งแต่ให้บริการแบบนี้ บาร์บีคิวพลาซ่าสามารถลดปริมาณกะหล่ำปลีเหลือทิ้งได้ 10% หรือคิดเป็น 200,000 กิโลกรัม

• พนักงานทุกคนต้องแยกขยะเป็น หลังลูกค้าทานเสร็จ จะมีม้าเร็ว หรือพนักงานมาเก็บโต๊ะ ซึ่งจะมาพร้อมกับรถเข็นที่ออกแบบให้มีการแยกประเภทขยะอาหารและขยะรีไซเคิลไว้ให้ ขยะอาหารจะมีการเก็บไว้ พักไว้ให้ไม่อุ้มน้ำและนำไปชั่งน้ำหนักเมื่อหมดวัน เพื่อส่งขยะอาหารไปกำจัดอย่างถูกวิธี ส่วนวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ก็ส่งกำจัดกับหน่วยงานอย่างถูกวิธีต่อไป

**เรื่องน่ารู้ – กะหล่ำปลีฝอยที่เราทานในบาร์บีคิวพลาซ่าทุกสาขาทั่วประเทศ มาจากชุมชนวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ อ.พบพระ จ.ตาก / อ.นาป่าแปก จ.แม่ฮ่องสอน / อ.หางดง จ.เชียงใหม่

เดิมที ราคากะหล่ำปลีของชาวบ้านไม่แน่นอน ความไม่มั่นคงนี้ ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าเล็งเห็นแนวทางการช่วยเหลือ จึงทำสัญญาซื้อขาย และสังซื้อกะหล่ำปลีจากเกษตรกรโดยตรง กว่า 2 ล้านกิโนกรัมต่อปี โดยวางแผนปริมาณซื้อล่วงหน้า เพื่อให้เกษตรกรวางแผนการปลูกได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ กะหล่ำปลีที่ปลูก ถูกกำหนดว่าจะต้องทำตามมาตรฐาน GAP ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง 50%

และอย่างที่กล่าวไป บาร์บีคิวพลาซ่ามีศูนย์การเรียนการศึกษาของตนเอง ซึ่งศูนย์เหล่านี้ก็จะช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับลูกหลานของเกษตรกรในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง มาเรียนและทำงาน โดยจะได้รับวุฒิ ปวช. ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 มีผู้สำเร็จการศึกษาจากที่นี่แล้วจำนวน 300 คน

P-Profit ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมช่วยกันรักษ์โลกแบบไม่รู้ตัว

บาร์บีคิวพลาซ่ามีระบบใหม่ที่ชื่อว่า “GON ORDER-TO-PAY” สั่ง-จ่าย-จบ สั่งอาหารผ่านคิวอาร์โค้ด ลดการใช้กระดาษ นอกจากนี้ หากสังเกตดีๆ พนักงานจะถามเสมอว่าทานเสร็จหรือยัง ต้องการปิดเตาหรือไม่ ซึ่งทำเพื่อชวนลูกค้าปิดเตาเมื่อทานเสร็จ ลดการใช้พลังงาน รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดไฟฟ้า วันละ 1 ชั่วโมงด้วย

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย Green Store โดยบางสาขาขณะนี้จะต้องดำเนินการดังนี้

• จัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement) คือการให้พาร์ทเนอร์ หรือผู้ค้าวัตถุดิบให้กับบาร์บีคิวพลาซ่า เปลี่ยนการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น ทำตามนโยบายที่บาร์บีกอนกำหนดไว้ เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มาจากองค์กรที่ใส่ใจโลกด้วย
• ออกแบบร้านด้วยวัสดุ Upcycling (เปลือกมะนาว,ใยสัปปะรด, กากมะพร้าว, ขวดพลาสติก, เม็ดกระดุม)
• ใช้เทคโนโลยีการหยัดพลังงานด้วย ioT
• การใช้น้ำยาทำความสะอาด Bio-Degradable ลดการใช้น้ำ 50%

ด้วยการดำเนินการให้บริการร้านอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Restaurant) ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าได้ตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2567 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายอีก 11 สาขาในปี 2568 และตั้งเป้าจะขยายให้ครบทุกสาขา ส่วนด้านสังคม คือสร้างคนที่มีความสามารถ เป็นคนดี และมีความสุขมากกว่า 30,000 คน เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคน