SHORT CUT
โปรเจกต์รื้อถอนเขื่อน 4 แห่งในแม่น้ำคลาแมธสำเร็จลุล่วงแล้ว หลังมีการสั่งให้รื้อถอนมาตั้งแต่ปี 2022 แม่น้ำคลาแมธจะได้รับการฟื้นฟู และอาจกลายเป็นบ้านให้แซลมอนอีกครั้ง
ว่ากันว่านี่คือการรื้อถอนเขื่อนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ย้อนกลับไปในปี 2022 โปรเจกต์รื้อถอนเขื่อนได้รับการไฟเขียวอย่างเป็นทางการ โดยเป้าหมายคือ “ทุบ ทุบ ทุบ” เขื่อนทั้ง 4 แห่งในแม่น้ำคลาแมธ (Klamath) วันนี้โปรเจกต์ดังกล่าวสำเร็จลุล่วงแล้ว
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแม่น้ำคลาแมธมีความสำคัญอย่างไร แม่น้ำแห่งนี้มีความยาว 414 กิโลเมตร ไหลผ่านรัฐโอเรกอน – แคลิฟอร์เนีย ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
นอกจากนี้ แม่น้ำแคลมอธถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแซลมอนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ และการเกิดขึ้นของเขื่อนก็ได้ทำลายที่อยู่อาศัยของแซลมอน อีกทั้งยังส่งผลกระทบถึงปากท้องของประชาชนด้วย
ตลอดริมฝั่งแม่น้ำคลาแมธมีชนเผ่าหลายชนเผ่าอาศัยอยู่ แต่ชื่อที่เด่นเด้งในเรื่องนี้มากที่สุดคือ ยูร็อค (Yurok) ซึ่งพวกเขาเรียกขานตัวเองว่า “ชาวแซลมอน”เนื่องจากอาหารจานหลักที่พวกเขาใช้ประทังชีวิตคือแซลมอนนั่นเอง
ชาวแซลมอนได้เปิดเผยว่าการมาถึงของเขื่อนเหล่านี้ส่งผลให้น้ำร้อนขึ้น เหม็นอับ และมีออกซิเจนน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อวงจรชีวิตแซลมอนอย่างจัง ด้วยว่าแซลมอนมักวางไข่ในแม่น้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ และจะอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะแข็งแรงค่อยเดินทางออกทะเล
“แม่น้ำคลาแมธสำคัญกับพวกเราเสมอมา การฟื้นฟูแม่น้ำจะช่วยให้คนรุ่นหลังได้สืบสานวิธีตกปลาแบบชาวยูร็อคต่อไป” Bowers Cordalis หนึ่งในชาวยูร็อคให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
ปี 2002 แม่น้ำคลาแมธเกิดการระบาดของไวรัสที่มาพร้อมกับอุณหภูมิน้ำที่อบอุ่น รวมถึงระดับน้ำที่ลดลง ส่งผลให้ปลาตายไปมากกว่า 34,000 สายพันธุ์ แซลมอนคือปลาที่ถูกล้างบางมากที่สุด
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ชาวยูร็อคจึงผลักดัน และเรียกร้องต่อรัฐให้มีการพิจารณารื้อถอนเขื่อน เพื่อมอบระบบนิเวศอันสมบูรณ์คืนกลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง มีการประเมินว่าหากเขื่อนถูกรื้อถอน และแม่น้ำคลาแมธได้รับการฟื้นฟู ปลาแซลมอนจะกลับคืนสู่สายน้ำแห่งนี้เพิ่มขึ้น 80%
ที่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง