กว่า 34 ปี ที่ชุมชนสะเอียบต่อสู้หัวชนฝา เพื่อคัดค้านไม่ให้โปรเจกต์สร้าง "เขื่อนแก่งเสือเต้น" เกิดขึ้นจริง แต่พวกเขาทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร และเมกะโปรเจกต์นี้ ที่ว่ากันว่าจะช่วยป้องกันน้ำท่วมได้เป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่ ณ ปี 2024 สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป?
เป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้งเมื่อนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ จ.ชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเตรียมปัดฝุ่นพูดคุยโปรเจกต์ “เขื่อนแก่งเสือเต้น” อีกครั้ง
โดยจุดประสงค์คือต้องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นไว้ป้องกันน้ำท่วม ทั้งนี้ โปรเจกต์ดังกล่าวถูกออกเสียงคัดค้านมาโดยตลอดทั้งจากนักอนุรักษ์ นักวิชาการ และกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมากที่สุดคือ “ชุมชนสะเอียบ” อ.สอง จ.แพร่
SPRiNG ชวนย้อนมหากาพย์การต่อสู้อันยาวนานของชุมชนชาวสะเอียบ จุดเริ่มต้นการสร้างเขื่อนแก่นเสือเต้น จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือ หากโปรเจกต์นี้ได้รับไฟเขียว ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และทำไมเขื่อนแก่งเสือเต้นถึงไม่เคยเกิดขึ้นจริง
ต้องบอกว่าการผลักดันโปรเจกต์นี้ของแต่ละรัฐบาลมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ในแง่การศึกษาผลกระทบ ผลที่คาดว่าจะได้รับ มูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือการเยียวยาชุมชน แต่สปริงนิวส์ชวนดูต่อว่าหาก “เขื่อนแก่งเสือเต้น” ถูกสร้างขึ้นจริงจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
*หมายเหตุ อ้างอิงข้อมูลจากโปรเจกต์สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นของรัฐบาลของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชิณวัตร เมื่อปี 2555
หากเขื่อนแก่งเสือเต้นถูกสร้างขึ้นจริง มี 4 หมู่บ้านที่ต้องอพยพ ได้แก่ บ้านดอนชัย หมู่ 1, บ้านดอนชัยสักทอง หมู่ 9, บ้านแก้ว หมู่ 6 และบ้านแม่เต้น หมู่ 5 อ.สะเอียบ จ.แพร่ ทั้งหมดรวมกัน 2,700 ครัวเรือน
แม้ภายหลังมีการศึกษาว่าการสร้างเขื่อนยมบน-ยมล่าง สามารถป้องกันไม่ให้หมู่บ้านถูกน้ำท่วมได้ แต่ป่าก็มิวายถูกน้ำท่วมอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้ใจกลางอุทยานแห่งชาติแม่ยม กว่า 52.85 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณ ที่เฟื่องไปด้วยต้นสักทอง รวมถึงพืชสมุนไพรกว่า 135 ชนิดอาจต้องสูญหายไป
ทั้งนี้ รายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ระบุว่าการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กล่าวคืออุณหภูมิจะเปลี่ยน ความชื้น และรูปแบบการตกของฝน
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือข้อมูลเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ล่าสุดนักอนุรักษ์ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าหากจะปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาอีกครั้ง รัฐบาลต้องทำการศึกษาใหม่ทั้งหมด สังคมเคลื่อน เศรษฐศาสตร์เคลื่อน รวมถึงระบบนิเวศที่เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว และที่สำคัญมรดกความรู้ที่กล่าวมานี้ชุมชนชาวสะเอียบรับรู้รับทราบเป็นอย่างดี
ที่มา: มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, thaipublica
ข่าวที่เกี่ยวข้อง