ทำไม "ร่มใส" ในญี่ปุ่นกลายเป็นขยะมากถึง 80 ล้านคันต่อปี?ทำไม "ร่มใส" ในญี่ปุ่นกลายเป็นขยะมากถึง 80 ล้านคันต่อปี?
ในโมงยามที่กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศกำลังเฉอะแฉะไปด้วยน้ำฝน หลายพื้นที่ระบายน้ำไม่ทันจนเกิดน้ำท่วมขัง ระยะเวลาเดินทางกลับบ้านต้องบวกเพิ่มไปอีกหลายชั่วโมง คนอยู่บนรถทำได้แค่รอ ส่วนคนที่ไม่มีรถไอเทมที่ต้องมีติดตัวเลยคือ “ร่ม”
แต่รู้หรือไม่ว่า ร่มคือหนึ่งในไอเทมที่กลายเป็นขยะมากที่สุดช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ในแต่ละปี ญี่ปุ่นมียอดขายร่มประมาณ 130 ล้านคัน โดย 80 ล้านคันในนั้นเป็นร่มใสพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ซึ่งหากใครเคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็จะรู้ว่าถังขยะในญี่ปุ่นหายาก (มาก) ดังนั้น จึงเกิดเป็นภาพร่มถูกวางกองเกลื่อนไปขยะอยู่เป็นจุด ๆ SPRiNG ชวนอ่าน “ทำไมร่มในญี่ปุ่นกลายเป็นขยะมากถึง 80 ล้านคันต่อปี” แดนอาทิตย์อุทัยมีวิธีจัดการปัญหานี้อย่างไร
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ใช้ร่มมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เฉลี่ยปีละประมาณ 120-130 ล้านคัน โดย 80 ล้านคันในนั้นคือร่มพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งร่มพลาสติกที่ว่านี้ 90% นำเข้าจากประเทศจีน ดังนั้น ร่มใสจึงมีราคาถูก
ราคาเฉลี่ยร่มใสในญี่ปุ่นอยู่ที่ 500-600 เยน หรือราว 121-145 บาท ซึ่งนับว่าไม่แพงมาก หากเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ ร่มใสจึงกลายเป็นไอเทมที่ซื้อง่ายขายคล่อง ฝนตกก็มุ่งหน้าเข้าไปจ่ายเงินซื้อร่มใสได้ง่าย ๆ
การันตีด้วยข้อมูลจาก Lawson ที่ออกมาเปิดเผยว่าสามารถขายร่มใสได้เฉลี่ย4,000,000 คันต่อปี อ่านถึงตรงนี้อาจเกิดข้อสงสัยว่าชาวญี่ปุ่นทำไมกระหน่ำซื้อร่มกันมากขนาดนั้นกันนะ บางทีข้อมูลด้านสภาพอากาศอาจให้คำตอบกับเราได้
หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าญี่ปุ่นคือประเทศที่มีปริมาณน้ำฝนมากเป็นอันดับที่ 48 ของโลก โดยข้อมูลจาก Statista เปิดเผยว่า ในปี 2022 ญี่ปุ่นมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,538 มิลลิเมตร และมีฝนตกเฉลี่ย 181 วันต่อปี
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ร่มใสมักกลายเป็นขยะคือ “ลืม” จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ข้อมูลจาก TBS NEWS DIG ระบุว่าชาวญี่ปุ่นลืมร่มไว้บนรถไฟมากเป็นอันดับ 1 เฉพาะกรุงโตเกียวอย่างเดียวมีร่มถูกทิ้งไว้ประมาณ 28,000 คันต่อปี และแทบไม่มีคนมารับร่มคืนเลย
หมายความว่าคนญี่ปุ่นอาจไม่ได้รู้สึกว่าร่มมีความสำคัญมากขนาดนั้น หาย หรือลืมไว้ที่ใดก็ปล่อยเลยตามเลย เดี๋ยวค่อยซื้อใหม่ เพราะสุ่มเดินเข้าในร้านค้าที่ใดก็มีร่มใสขายทั้งนั้น
สำหรับคนที่ไม่อยากพกร่ม หรือรู้ตัวว่าเป็นคนขี้ลืมไม่เป็นไร เพราะญี่ปุ่นมีธุรกิจที่ตอบโจทย์ในจุดนี้แล้ว นั่นคือ ‘บริการแชร์ร่ม’ ซึ่งกระจายอยู่กว่า 800 จุด ในพื้นที่โตเกียว และจังหวัดใกล้เคียงกัน
เนื่องจากมีผู้ให้บริการแชร์ร่มหลายเจ้า SPRiNG จึงหยิบมาหนึ่งเคสเพื่อเป็นกรณีศึกษา เอกชนเจ้านี้มีชื่อว่า iKasa ซึ่งถูกระบุว่ามีอัตราการคืนร่มมากถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับใครที่ต้องการยืมรถต้องเสียค่าบริการวันละ 70 เย็น หรือประมาณ 16 บาท
แถมตอบโจทย์ประชาชนสุด ๆ เพราะจะนำร่มไปคืนที่สาขาไหนก็ได้ ซึ่งปัจจุบันมีจุดให้บริการกว่า 200 แห่ง และไม่ต้องไปจ่ายเงินสดแต่อย่างใด เพราะสามารถตัดเงินผ่านบัตรเครดิตได้ เสร็จสิ้นแล้วก็จะได้รหัสมาปลดล็อคร่ม นั่นหมายความว่าใครเป็นคนยืมก็สามารถระบุตัวตนได้
โมเดลนี้ตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หนึ่งคือราคาถูก สองคือสะดวก และสุดท้ายคือทุกคนรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาข้าวของ ไม่ทิ้งขว้างแบบที่เคยทำมา
ที่มา: TBS NEWS DIG, Circular Yokohama, Statista, Japan Today
ข่าวที่เกี่ยวข้อง