SHORT CUT
ญี่ปุ่นวิกฤตเจอ หอยเม่น กินสาหร่ายเกลี้ยงทะเล กระทบระบบนิเวศน์ สุดทึ้ง! สาหร่ายลดปริมาณลงถึงราว 80 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา
ในประเทศญี่ปุ่นเวลานี้ บริเวณอ่าวซากามิ ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งจังหวัดคานากาวะ ทางตอนใต้ของประเทศ กำลังประสบปัญหาสาหร่ายลดปริมาณลงถึงราว 80 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา โดยปัญหาสาหร่ายในทะเลลดลง ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกกันว่า “อิโซยาเกะ” และมันจะก่อให้เกิดปัญหากระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล เพราะสาหร่ายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลน้อยใหญ่
เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างสงสัยว่าเพราะเหตุใดสาหร่ายในบริเวณดังกล่าวจึงลดลง ก่อนจะพบว่า หอยเม่นทะเลน่าจะเป็นตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์สาหร่ายหายครั้งนี้ บวกกับปัญหาอุณหภูมิน้ำทะเลเพิ่มขึ้นและคลื่นลมแรงกว่าเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปควบคุมประชากรหอยเม่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โชโซ ทากามุระ นักวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีประมงจังหวัดคานากาวะเปิดเผยว่า พบหอยเม่นจำนวนมากในพื้นที่ที่สาหร่ายลดลง เหล่านักประดาน้ำและชาวประมงก็ดำน้ำลงไปเพื่อจะกำจัดพวกมัน แต่จำนวนของหอยเม่นก็แทบไม่ลดลงเลย
ดังนั้นหนทางเดียวที่เหล่านักวิจัยกำลังทดลองก็คือ นำผักไปป้อนให้กับเหล่าหอยเม่นทะเลผู้หิวโหย เพื่อหวังให้พวกมันหยุดกินสาหร่ายฃได้แล้ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าไข่หอยเม่น หรืออูนิมีราคาแพง และถูกนำไปจำหน่ายตามร้านซูชิชั้นเลิศ แต่หอยเม่นประเภทนี้แตกต่างจากหอยเม่นพวกนั้น เพราะส่วนใหญ่แล้ว หอยเม่นทะเลในชายฝั่งจังหวัดคานากาวะจะมีส่วนที่สามารถนำไปรับประทานได้น้อยมาก ดังนั้นเหล่าชาวประมงจึงไม่มีแรงจูงใจที่จะเก็บพวกมันไปขาย เพราะก็ไม่ได้ราคาอยู่ดี
เหล่านักวิจัยจึงกำลังศึกษาหาวิธีจะทำอย่างไรดี โดยการนำหอยเม่นประเภทดังกล่าวมีเลี้ยงเอาไว้ภายในศูนย์ ยูกาตะ ฮาราดะ หนึ่งในนักวิจัยเปิดเผยว่า หอยเม่นที่นำมาเลี้ยงไว้เป็นหอยเม่นสีม่วงแปซิฟิก และพวกมันรักการกินผัก ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ หอยเม่นประเภทนี้ในทะเลจะมีส่วนที่สามารถนำไปรับประทานได้เพียงแค่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่หอยเม่นที่นำมาเลี้ยงไว้ในห้องแล็บด้วยผักจะมีส่วนที่สามารถรับประทานได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แถมพวกมันยังมีรสขมน้อยกว่าด้วย
งานวิจัยครั้งนี้จึงไม่เพียงแค่ค้นหาวิธีที่ทำให้เหล่าหอยเม่นเลิกกินสาหร่ายจนหมด แต่มันอาจจะทำให้เหล่าหอยเม่นพวกนี้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้แก่ชาวประมงในการจับมัน
ที่มา: https://www.reutersconnect.com/all?id=tag%3Areuters.com%2C2024%3Anewsml_RW131724072024RP1&share=true
ข่าวที่เกี่ยวข้อง