SHORT CUT
ศูนย์ความรู้และนวัตกรรมระดับโลกสำหรับพืชสวนเรือนกระจก “World Horti Center” ขุดหลุมลึก 2.6 กิโลเมตรนำความร้อนใต้พิภพมาใช้ มุ่งหวังที่จะรวมสถาบันและอุตสาหกรรมพืชสวนของเนเธอร์แลนด์เข้าด้วยกัน
เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์สิ่งที่ทุกคนนึกถึง นอกจากกังหันลมอันโด่งดังจนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศแล้ว ดอกทิวลิป ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกจดจำเกี่ยวกับประเทศในยุโรปแห่งนี้ การค้าดอกทิวลิป เป็นหนึ่งในรายได้ที่สำคัญของเกษตรกรเนเธอร์แลนด์ จนทำให้ตลาดประมูลดอกไม้ของเนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในตลาดดอกไม้ที่ใหญ่สุดในโลก แต่ละวัน มีการซื้อขายดอกไม้ชนิดต่างๆกว่าล้านดอก
การประมูลดอกไม้นานาชาติ ตลาดค้าดอกไม้ขนาดใหญ่ ในอาคารซึ่งมีขนาด 2.5 ล้านตารางฟุตที่เมือง Naaldwijk กรุงอัมสเตอร์ดัม จะเป็นศูนย์กลางรวบรวมดอกไม้สดจากทั่วทุกมุมโลก ในตอนเช้าของทุกวัน และจัดส่งดอกไม้เหล่านั้นไปยังตลาดต่างๆ ทั่วโลกในวันเดียวกัน
นอกเหนือจากการประมูลดอกไม้แล้ว ในบริเวณเดียวกัน ยังเป็นที่ตั้งของ World Horti Center ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของเนเธอร์แลนด์ ที่มุ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับพืชและการเพาะปลูกในเรือนกระจก ที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์แสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเกษตรแล้ว ยังเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมของสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงบริษัทเอกชนขนาดใหญ่อีกหลายสิบแห่ง ซึ่งต่าวมีสำนักงานถาวรเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และองค์ความรู้ของตน รวมถึงร่วมมือกันพัฒนางานวิจัยอย่างใกล้ชิด
การก่อสร้าง World Horti Center ใช้เวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2016 และมีพิธีเปิดเป็นทางการอย่างยิ่งใหญ่ โดยสมเด็จพระราชินี Máxima ในวันที่ 7 มีนาคม 2018
ในแต่ละวันที่ World Horti Center มีนักวิจัยหลายร้อยคนจากหน่วยงานต่างๆ ทำงานเต็มเวลา นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาและผู้สนใจจากทั่วโลกอีกนับพันคนเข้ามาอบรมหรือศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง โดย 1 ใน 3 ของพื้นที่อาคารถูกจัดสรรไว้สำหรับการศึกษาโดยเฉพาะ เพื่อให้นักเรียนจากทั่วโลกได้มาเรียนรู้เทคนิคการผลิตพืชผลที่ทันสมัยที่สุด และนำความรู้เหล่านี้กลับไปพัฒนาประเทศของตน
อีกส่วนของอาคารเป็นพื้นที่สำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ระบบอัตโนมัติ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ส่วนสุดท้ายเป็นโรงเรือนสำหรับการวิจัย ที่ใช้ทดสอบและพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ทดลองเทคนิคการเพาะปลูกสมัยใหม่ และแบ่งปันผลการวิจัยระหว่างกัน โดยบริษัทต่างๆ สามารถเช่าพื้นที่เพื่อวิจัยและทดสอบวิธีการปลูกและดูแลพืชแต่ละชนิด
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจของ World Horti Center ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
แต่เดิมอาคารแห่งนี้ใช้ระบบทำความร้อนจากเตาแก๊ส ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ล่าสุดได้มีการเปลี่ยนมาใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพแทน โดยการขุดหลุมลึกถึง 2.6 กิโลเมตร เพื่อนำพลังงานความร้อนจากใต้ดินขึ้นมาใช้ในการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี
การใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพนี้ เป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นตัวอย่างของความพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของ World Horti Center ที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อโลก
ที่มา