พามาเจาะลึก ! แผนธความยั่งยืน ธุรกิจ “อายิโนะโมะโต๊ะ” เบอร์ 1 ตลาดผงชูรสไทย มาเก็ตแชร์ 94.5% ของตลาดผงชูรสที่มีมูลค่า 3,956 ล้านบาท ได้ประกาศกำลังจะ ‘เปลี่ยนผ่าน’ ครั้งใหญ่ภารกิจ และวิสัยทัศน์ใหม่ สู่....ผู้นำสร้างความอยู่ดีมีสุข
หลายธุรกิจต่างเร่งเครื่องเดินหน้าแผนงานสู่ความยั่งยืน และรับเทรนด์รักษ์โลกกันอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งแผนงานเพื่อความยั่งยืนของแต่ละธุรกิจ ของแต่ละหน่วยงานก็จะแตกต่างกันออกไป วันนี้จะพามาเปิดแผนของบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เบอร์ 1 ตลาดผงชูรสไทย ในฐานะเจ้าของมาเก็ตแชร์ 94.5% ของตลาดผงชูรสที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,956 ล้านบาท ที่ประกาศกำลังจะ ‘เปลี่ยนผ่าน’ ครั้งใหญ่ภารกิจและวิสัยทัศน์ใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจครั้งสำคัญ เพราะบริษัทจะหันไปเน้นการสร้าง ‘ความอยู่ดีมีสุข’ (well-being) ในสังคมไทย
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2573 ของกลุ่มบริษัทฯ ระดับโลก ที่มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมสร้างสุขภาพดีของผู้คน 1,000 ล้านคนทั่วโลก และส่งเสริมความยั่งยืนของโลกด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ 50% โดย มร. อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สภาวะแวดล้อมในการทำธุรกิจ และการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนทั้งลูกค้า สังคมและสิ่งแวดล้อม และพนักงาน บริษัทฯ จึงได้ปรับ“วิสัยทัศน์” ใหม่ จากเดิม “มุ่งสู่การเป็นบริษัทอาหารที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย” สู่การเป็น “ผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน” โดยมี “ภารกิจ” ใหม่ ในการอาสา “แก้ไขปัญหาด้านอาหารและสุขภาพของสังคมผ่านค่านิยมหลักของบริษัท
หากโฟกัสพันธกิจด้าน ‘สิ่งแวดล้อม’ จะมีเป้าหมายหลัก 5 ด้าน ดังนี้
นอกจากนี้จะทำโรงงานทุกแห่งของบริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามแนวทางวัฏจักรชีวภาพในกระบวนการผลิต ที่ได้นำหลัก 3Rs มาใช้ในการจัดการทรัพยากรในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำตลอดการผลิตให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการบำบัดและใช้หมุนเวียนภายในโรงงาน การนำแกลบที่เหลือจากภาคการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิงให้กับหม้อต้มไอน้ำพลังชีวมวลเพื่อผลิตไอน้ำสำหรับกระบวนการผลิต (Biomass Cogeneration) รวมไปถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนเชื้อเพลิงจากน้ำมันเตา
สำหรับภาคการเกษตร บริษัทฯได้ดำเนินงานผ่านโครงการการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทย” (Thai Farmer Better Life Project) ด้วยการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ควบคู่กับการให้ความรู้ในการปรับปรุงดิน พัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลังซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์โรคใบด่างฯ ซึ่งเป็นโรคระบาดที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับมันสำปะหลัง โดยสนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาด ทนทาน และปราศจากโรค ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดข้างเคียง ที่ได้รับผลกระทบจากโรคใบด่างฯ มาตั้งแต่ปี 2564 รวมถึงปัจจุบันแล้วกว่า 73,025 ต้น
นอกจากนี้ในเร็ว ๆ นี้ยังได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญ Too Good To Waste เพื่อส่งต่อแนวคิดในการจัดการกับการสูญเสียอาหารและขยะอาหารให้กับคนไทยในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นการต่อยอดแนวทางการจัดการ Food Loss and Food Waste ที่ใช้ในโรงงาน เพื่อลดการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารจากกระบวนการผลิต ด้วยการนำของเหลือจากกระบวนการผลิตมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ร่วม (Co-Product) ส่งคืน สู่ภาคการเกษตร เช่น การนำน้ำหมักที่เหลือจากกระบวนการผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะมาผลิตเป็นปุ๋ยน้ำให้กับพืช และใช้ผสมในอาหารสัตว์ (Fertilizer Animal feed) การนำขี้เถ้าแกลบที่เป็นของเหลือจากโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมจากชีวมวล (Biomass Cogeneration) ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงดิน
สำหรับผลสำเร็จในการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – พ.ศ. 2565) อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย สามารถลดการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตลงถึง 91% รวมทั้งการบำบัดน้ำทิ้งที่ได้มาตรฐานสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 267,000 ตัน หรือเทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ใหญ่กว่า 30 ล้านต้น และสามารถลดการใช้พลาสติกจากการดำเนินการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ลดขนาดหรือความหนาของบรรจุภัณฑ์พลาสติกลง โดยที่ยังคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ได้ดีเหมือนเดิม หรือการยกเลิกบรรจุภัณฑ์ชั้นที่ 2 ซึ่งทำให้ช่วยลดการใช้พลาสติกลงได้กว่า 307 ตัน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อลดปริมาณการสูญเสียอาหารและขยะอาหารได้ถึง 49% หรือประมาณ 1,000 ตัน อีกด้วย
ทั้งหมดคือแผนความยั่งยืน ธุรกิจของ “อายิโนะโมะโต๊ะ” สู่ผู้นำการสร้างความอยู่ดีมีสุข !
ข่าวที่เกี่ยวข้อง