svasdssvasds

กลยุทธ์เรื่องความตายของ Apple อาจไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน

กลยุทธ์เรื่องความตายของ Apple อาจไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน

คำกล่าวที่ว่า "รักตัวกลัวตาย" ยังคงเป็นเรื่องจริงของทุกคนที่ใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยทั้งชีวิตและสุขภาพ และ Apple ก็เลือกใช้เรื่อง "ความตาย" มาเป็นแกนเรื่องในการทำกลยุทธ์การตลาด แต่จะเป็นเรื่องที่ยั่งยืนหรือไม่

ในช่วงหลายปีมานี้ Apple พยายามในการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านชีวิตและสุขภาพ เช่น ถ้าไม่มี Apple Watch อาจถูกหมีขย้ำ จมอยู่ในรถที่กำลังตกน้ำ ติดอยู่ในเครื่องบดอัดขยะ หรือต้องยอมรับสภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ หลังตกลงบนทะเลสาบน้ำแข็ง พร้อมชูวลีเด็ด ภัยพิบัติเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้เสมอถ้ามี Apple Watch

สำหรับในปีนี้ Apple ก็ได้ขยายความช่วยเหลือไปยังสินค้ากลุ่มอื่นๆ ให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ Apple Watch เพียงอย่างเดียว แต่มุ่งไปที่มือถืออย่าง iPhone เช่นกัน

Credit Pic : Unsplash

ทั้งนี้ โฆษณาตัวล่าสุดของ iPhone 15 ก็ได้ชูจุดเด่นที่การใช้งานร่วมกันของ Apple Watch และ iPhone ด้วยภาพของงานวันเกิดของคนทุกเชื้อชาติทั่วโลก กับบรรยากาศที่มีความสุข การอวยพรวันเกิด เพื่อนและครอบครัวที่ได้รับคำอวยพรอีกครั้ง

หลังต้องเจอเหตุการณ์ที่เสี่ยงการสูญเสียชีวิต มารวมไว้ทั้งการใช้ฟีเจอร์ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือ การใช้ iPhone โทรเรียกขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น

  • Apple Watch แจ้งเตือนเธอถึงอัตราการเต้นของหัวใจต่ำ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดโดยด่วน
  • ฟีเจอร์ SOS ใน iPhone 14 ที่ช่วยชีวิตขณะติดอยู่ในพายุหิมะ
  • หญิงตั้งครรภ์ที่ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับบริการฉุกเฉินหลังจาก Apple Watch ตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจสูง

โฆษกของ Apple กล่าวว่า มีหลายฟีเจอร์และเครื่องมือบน iPhone และ Apple Watch ที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือฉุกเฉินได้จริง ทางทีมพัฒนาจึงพยายามที่จะเพิ่มเครื่องมือในการช่วยเหลือฉุกเฉินให้มากขึ้นไปอีก เช่น ฟีเจอร์ Crash Detection ใหม่สำหรับ Apple Watch และ iPhone 14 ซึ่งจะแจ้งเตือนบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และผู้ใช้สามารถติดต่อบริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมในกรณีที่ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย

ดังนั้น การชูประเด็นเรื่องสุขภาพกลายมาเป็นแนวทางการโฆษณาของ Apple มีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ใช้งานบางกลุ่มไม่สบายใจ เพราะคุณสมบัติของ Apple Watch ไม่ได้โดดเด่นกว่าคู่แข่งอีกต่อไป

เพราะตอนนี้ Galaxy Watch 6 ของ Samsung และ Pixel Watch ของ Google ดีกว่า Apple Watch ในแง่ของเซ็นเซอร์ติดตามสุขภาพ

แม้แอนดรอยด์ยังไม่มีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม แต่ Huawei Mate 60 กำลังทำได้ก็ยิ่งทำให้ความแตกต่างระหว่างสินค้า iOS และ Android จะมีช่องว่างในความทันสมัยไม่ต่างกันอีกต่อไป

และจุดเด่นของ Apple อาจไม่ใช่เรื่องที่ยั่งยืนนักในการหยิบมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด คุณคิดว่าอย่างไรกันบ้าง?

 

ที่มา : Youtube, The Verge

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related