คำกล่าวที่ว่า "รักตัวกลัวตาย" ยังคงเป็นเรื่องจริงของทุกคนที่ใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยทั้งชีวิตและสุขภาพ และ Apple ก็เลือกใช้เรื่อง "ความตาย" มาเป็นแกนเรื่องในการทำกลยุทธ์การตลาด แต่จะเป็นเรื่องที่ยั่งยืนหรือไม่
ในช่วงหลายปีมานี้ Apple พยายามในการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านชีวิตและสุขภาพ เช่น ถ้าไม่มี Apple Watch อาจถูกหมีขย้ำ จมอยู่ในรถที่กำลังตกน้ำ ติดอยู่ในเครื่องบดอัดขยะ หรือต้องยอมรับสภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ หลังตกลงบนทะเลสาบน้ำแข็ง พร้อมชูวลีเด็ด ภัยพิบัติเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้เสมอถ้ามี Apple Watch
สำหรับในปีนี้ Apple ก็ได้ขยายความช่วยเหลือไปยังสินค้ากลุ่มอื่นๆ ให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ Apple Watch เพียงอย่างเดียว แต่มุ่งไปที่มือถืออย่าง iPhone เช่นกัน
ทั้งนี้ โฆษณาตัวล่าสุดของ iPhone 15 ก็ได้ชูจุดเด่นที่การใช้งานร่วมกันของ Apple Watch และ iPhone ด้วยภาพของงานวันเกิดของคนทุกเชื้อชาติทั่วโลก กับบรรยากาศที่มีความสุข การอวยพรวันเกิด เพื่อนและครอบครัวที่ได้รับคำอวยพรอีกครั้ง
หลังต้องเจอเหตุการณ์ที่เสี่ยงการสูญเสียชีวิต มารวมไว้ทั้งการใช้ฟีเจอร์ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือ การใช้ iPhone โทรเรียกขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น
โฆษกของ Apple กล่าวว่า มีหลายฟีเจอร์และเครื่องมือบน iPhone และ Apple Watch ที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือฉุกเฉินได้จริง ทางทีมพัฒนาจึงพยายามที่จะเพิ่มเครื่องมือในการช่วยเหลือฉุกเฉินให้มากขึ้นไปอีก เช่น ฟีเจอร์ Crash Detection ใหม่สำหรับ Apple Watch และ iPhone 14 ซึ่งจะแจ้งเตือนบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และผู้ใช้สามารถติดต่อบริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมในกรณีที่ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
ดังนั้น การชูประเด็นเรื่องสุขภาพกลายมาเป็นแนวทางการโฆษณาของ Apple มีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ใช้งานบางกลุ่มไม่สบายใจ เพราะคุณสมบัติของ Apple Watch ไม่ได้โดดเด่นกว่าคู่แข่งอีกต่อไป
เพราะตอนนี้ Galaxy Watch 6 ของ Samsung และ Pixel Watch ของ Google ดีกว่า Apple Watch ในแง่ของเซ็นเซอร์ติดตามสุขภาพ
แม้แอนดรอยด์ยังไม่มีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม แต่ Huawei Mate 60 กำลังทำได้ก็ยิ่งทำให้ความแตกต่างระหว่างสินค้า iOS และ Android จะมีช่องว่างในความทันสมัยไม่ต่างกันอีกต่อไป
และจุดเด่นของ Apple อาจไม่ใช่เรื่องที่ยั่งยืนนักในการหยิบมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด คุณคิดว่าอย่างไรกันบ้าง?
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม