SHORT CUT
ทราบกันมาแล้วว่า "กากกาแฟ" สามารถนำไปใช้ทำปุ๋ยในการปลูกต้นไม้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีธาตุไนโตรเจนสูง ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี แต่ล่าสุด นักวิจัยค้นพบว่า กากกาแฟมีอีกหนึ่งฟังก์ชันคือสามารถช่วยดูดซับสารพิษในดินได้ ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญของการทำเกษตรยุคใหม่
ทุกวันนี้ โลกของเรามีกากกาแฟเหลือทิ้งมากถึงราว 6 ล้านตันต่อปี หลายคนคิดค้นหาวิธีว่าจะสามารถนำมันไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้ว กากกาแฟมักถูกนำไปทิ้งตามที่ทิ้งขยะ และก่อให้เกิดก๊าซมีเทน รวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งล้วนเป็นก๊าซเรือนกระจกทำลายชั้นบรรยากาศโลก
ผลการศึกษาล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemical Technology and Biotechnology ระบุว่า เราอาจสามารถนำกากกาแฟเหลือทิ้งใปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมได้ นั่นการนำไปช่วยแก้ปัญหาที่ดินทางการเกษตรปนเปื้อนสารพิษ
นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเทคนิครัฐแห่งปารานาในบราซิล ค้นพบว่า กากกาแฟสามารถดูดซับเบนทาโซน ยากำจัดวัชพืช ที่มักถูกนำไปใช้ในการเกษตรได้
ผลวิจัยชี้ว่า กากกาแฟเก่าเต็มไปด้วยซิงค์คลอไรด์ ซึ่งคาร์บอนที่อยู่ในนั้นจะช่วยกำจัดยากำจัดวัชพืชได้ โดยผลการศึกษาได้ทดลองนำเบนทาโซลละลายในของเหลว ผสมคาร์บอนจากกากกาแฟ เพื่อดูปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อเจริญ (meristem) ในรากหัวหอม
และพบว่า หัวหอมทั้งหมดเจริญเติบโตได้ในชั้นเนื้อเยื่อเจริญ และการเติบโตของหัวหอมจะหยุดชะงักเมื่อเนื้อเยื่อเจริญได้รับความเสียหาย ดังนั้นหากผลการทดลองดังกล่าวขยายใหญ่ไปเป็นระดับอุตสาหกรรม ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้
สำนักงานสิ่งแวดล้อมอังกฤษระบุว่า ยากำจัดวัชพืชเบนทาโซลมีแนวโน้มที่จะส่งผลในระยะยาวต่อคุณภาพของน้ำ และนำไปสู่ปัญหาต้องเพิ่มการดูแลรักษาแหล่งน้ำดื่มให้มากขึ้น โดยยากำจัดวัชพืชดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ด้วย หากสูดดม กลืนหรือสัมผัสผ่านผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาดังกล่าวก็เน้นย้ำว่าจำเป็นต้องศึกษาหาความเป็นไปได้ในการนำกากกาแฟไปใช้ในระดับสากลต่อไป
ที่มา: Euro News
ข่าวที่เกี่ยวข้อง