ประเทศโคลอมเบียกำลังเผชิญกับเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในรอบหลายศตวรรษ ทำให้เกิดไฟป่าหลายครั้งหลายหน หากนับความเสียหายรวมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงไฟป่าครั้งล่าสุดนี้ ประเทศโคลอมเบียสูญเสียพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 106,250 ไร่
ซูซานา มูฮาหมัด รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ขึ้นแถลงว่า เกิดเพลิงไหม้แล้วมากกว่า 340 ครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากอุณหภูมิที่ร้อนระอุครั้งประวัติการณ์ ผนวกกับฤทธิ์ของเอลนีโญ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ป่าบนภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ กับ “โบโกตา” เมืองหลวงของประเทศ เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ และดูท่าจะคุมไม่อยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่ดังกล่าวให้อยู่แต่ในบ้าน และปิดล็อคประตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากคุณภาพอากาศไม่ดี
มูฮัมหมัด กล่าวในงานแถลงข่าวว่า อุทยานแห่งชาติเนวาดา เดล โคคุย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโบโกตาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 250 กม. ก็เกิดไฟป่าเช่นกัน แถมเกิดในจุดที่สูงและเข้าถึงยาก จึงมีการใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจและประเมิณสถานการณ์ พร้อมวางแผนป้องกันการลุกลามไม่ให้ลามไปมากกว่านี้
ประชาชนบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟกำลังเข้ารับการรักษาตัว ที่สภากาชาดโคลอมเบียในเมืองโบโกตา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังดูแลผู้ป่วยอย่างขะมักเขม้น
ล่าสุด ประธานาธิบดี กุสตาโว เปโตร ได้ประกาศสถานการณ์ว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติแล้ว ทำให้สามารถโยกเงินทุนจากงบประมาณด้านอื่นๆ ไปใช้สำหรับควบคุมไฟป่าได้ พร้อมทั้งประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ
ไฟป่าโคลอมเบียในครั้งนี้ ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 138 เที่ยวต้องหยุดชะงักไป แต่ล่าสุดมีการรายงานว่า สนามบินนานาชาติเอล โดราโด ของโบโกตา กลับมาให้บริการตามปกติแล้ว
Ghisliane Echeverry ผู้อำนวยการสถาบันอุทกวิทยา อุตุนิยมวิทยา และสิ่งแวดล้อมศึกษาในโคลอมเบีย กล่าวว่าเดือนนี้จะกลายเป็นเดือนมกราคมที่ร้อนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี
เอเชเวอร์รีกล่าวอีกว่า เดือนกุมภาพันธ์อุณหภูมิอาจจะพุ่งสูงกว่านี้ แต่จะทุเลาลงในเดือนมีนาคมเพราะคาดว่าจะมีฝนตกลงมา และทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงเล็กน้อย
แม้จะบอกว่าไฟป่าโคลอมเบียครั้งนี้ มาสาเหตุมาจากภัยแล้ง และอุณหภูมิที่ร้อนระอุ แต่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกต และกำลังสืบสวนว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีผู้ลักลอบวางเพลิงจนป่าถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง ขณะนี้ ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 26 ราย
ที่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง