Arctic Ice สตาร์ทอัพจากฟินแลนด์ ไอเดียบรรเจิด เฟ้นหาน้ำแข็งจากเกาะกรีนแลนด์ เพื่อส่งไปขายที่บาร์หรูใน UAE ชูสรรพคุณ ละลายช้า สะอาดและปลอดภัยจากมลพิษที่สร้างโดยมนุษย์ ชาวเน็ตถามตรง ๆ ไม่กลัวเชื้อซอมบี้ระบาดหรือไง ? Keep The World สรุปให้อ่านกัน
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ชาว UAE รู้สึกอย่างไร เมื่อได้ละเมียดเครื่องดื่มที่เสิร์ฟพร้อมกับก้อนน้ำแข็ง ซึ่งถูกส่งตรงมา 9,000 ไมล์จากธารน้ำแข็งที่เกาะกรีนแลนด์ ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Ocean)
Agent ค้าน้ำแข็งครั้งนี้เป็น start-up จากฟินแลนด์ชื่อว่า “Artic Ice” ก่อตั้งโดย Malik V Rasmussen กล่าวถึงไอเดียสุดบรรเจิดนี้ว่า น้ำแข็งที่กรีนแลนด์นั้นมีความพิเศษคือ เป็นน้ำแข็งที่ละลายช้ากว่าน้ำแข็งทั่วไป ไม่มีฟองอากาศเลย สะอาดปลอดภัย แถมไร้มลพิษที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์
ย้อนความสักเล็กน้อย บริษัท Artic Ice ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2565 จนถึงตอนนี้ก็เกือบสองปีแล้ว รายงานจากบริษัท ระบุว่า ตั้งแต่เปิดจนถึงขณะนี้ (ม.ค. 2567) ส่งออกน้ำแข็งจากกรีนแลนด์ไปที่ UAE แล้วกว่า 20 ตัน!
ปัจจุบันสินค้าของ Arctic Ice มีขายอยู่ทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่
พูดง่าย ๆ คือถูกทัวร์ลง ผู้คนบนโลกออนไลน์เมื่อได้เห็นข่าวนี้ ต่างแสดงความคิดเห็นกันออกไปอย่างหลากหลาย อาทิ โลกร้อนจะแย่อยู่แล้ว ยังมีหน้ามาตัดน้ำแข็งไปขายอีกหรือไง? นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? หรือมีที่รุนแรงถึงขั้นขู่เอาถึงชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีอีกก้อนความคิดเห็นที่โยนคำถามใส่บริษัท Arctic Ice อย่างเกรี้ยวกราดว่า “ขอร้องเถอะ...อย่าหาทำ” “แบคทีเรียโบราณอาจฝังอยู่ในน้ำแข็งก็ได้ ไปขุดมาทำไม” “นี่มันจุดเริ่มต้นหนังซอมบี้ชัด ๆ”
ทางฝั่ง Malik ก็ออกมาโต้ตอบเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า น้ำแข็งที่บริษัทใช้ ต้องเป็นน้ำแข็งที่หล่นหรือแยกออกจากธารน้ำแข็งแล้วเท่านั้น ทางบริษัทไม่ได้ผลีผลามไปขุดน้ำแข็งมั่วซั่ว
“ผมเหมือนถูกกำหนดให้มาทำสิ่งนี้” Malik V Rasmussen CEO บริษัท Arctic Ice กล่าว
เมื่อได้น้ำแข็งตรงตามสเปคแล้ว บริษัทก็จะนำน้ำแข็งไปแช่ไว้ในถังสีน้ำเงิน คล้าย ๆ กับถังแช่ปลาบ้านเรานั่นแหละ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ว่าจะส่งไปผับที่ดูไบในสภาพนี้ พวกเขากล่าวว่า ต้องนำไปใส่ตู้คุมอุณหภูมิที่ประเทศเดนมาร์กอีกที แล้วค่อยลำเลียงไปยัง UAE ผ่านทางเรือ
Malik กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างคมคายว่า เป้าหมายหลักของบริษัทคือสร้างแหล่งรายได้แห่งใหม่ในเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนแห่งน้ำแข็ง เผื่อว่าวันหนึ่งจะได้ไม่ต้องไปพึ่งงบช่วยเหลือจากเดนมาร์กอีก
เพราะส่วนใหญ่แล้ว ที่กรีนแลนด์สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศด้วยการประมงและท่องเที่ยว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะมีแหล่งทำเงินแห่งใหม่กันแล้วล่ะนะ...
ที่มา: The Guardian
เนื้อหาที่น่าสนใจ