เวลส์ประกาศแบน Single-use Plastic มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 30 ต.ค. เป็นต้นไป
หลังจากที่รัฐบาลของประเทศเวลส์ได้ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผ่านทาง X ว่าจะแบน single-use Plastic หมายความว่าในวันนี้ (30 ต.ค.) กฎหมายแบน Single-use Plastic มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว
ทางรัฐบาลเวลส์แจ้งเป้าหมายในการแบน Single-use Plastic ในครั้งนี้ว่า ต้องการลดการสร้างขยะพลาสติกที่ไม่จำเป็น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งแต่วันนี้ (30 ต.ค.) เป็นต้นไป จะมีพลาสติก single-use ที่ถูกแบนทั้งสิ้น 8 ประเภทดังนี้
- จานพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- ช้อนส้อมพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- ไม้คนเครื่องดื่มพลาสติก
- ถ้วยทำจากพอลิสไตรีนอัดขยายหรือโฟม
- ภาชนะบรรจุอาหารที่นำกลับบ้านทำจากพอลิสไตรีนอัดขยายหรือโฟม
- แท่งลูกโป่งพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- สำลีก้านพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- หลอดดื่มพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
จูลี เจมส์ รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศเวลส์ กล่าวว่า การสั่งห้ามขายพลาสติก ถูกต่อยอดมาจากการทำงานในระดับชุมชนทั่วประเทศ ที่สามารถเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastic) ได้แล้ว
“นี่คือก้าวสำคัญก้าวแรก ในการตัดปัญหาการใช้-ขายพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในประเทศ” จูลี เจมส์ กล่าว
“เป้าหมายของเราคือการกำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และเป้าหมายต่อไปก็คือ เราจะประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และภาชนะบรรจุอาหาร”
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลเวลส์ยังได้เล็งทิชชู่เปียกที่ทำจากพลาสติก ซึ่งพบว่าทำให้เกิดการอุดตันของท่อระบายน้ำจนก่อให้เกิดน้ำท่วม และในระดับใหญ่ คือไปเพิ่มไมโครพลาสติก (Microplastics) ให้สิ่งแวดล้อมมากเกินไป
ใครได้รับผลกระทบบ้าง?
หลังจากที่การแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อย มีคนหลากหลายกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเช่น
- ภาคธุรกิจ
- องค์กร บริษัท หรือหน่วยงานของรัฐ
- องค์กรการกุศล หรือสมาคมต่าง ๆ
- ผู้ให้บริการสาธารณะ
- บุคคลผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ารายเดียว
- ห้างหุ้นส่วน
แม้ผลบังคับใช้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นอยู่ ฉะนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ในแง่ของปฏิบัติ มีปัญหาหรือผลกระทบอะไรที่เกิดขึ้นบ้าง
แล้วทางรัฐบาลเวลส์จะแก้ปัญหา หรือหาทางออกร่วมกันกับทุกภาคส่วนอย่างไร แต่ในแง่หนึ่ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการให้ประชาชนเลิกให้ความสำคัญกับพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และหันมาใช้วัสดุอื่น ๆ ที่สามารถใช้ซ้ำได้บ่อย ๆ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ที่มา: Independent
เนื้อหาที่น่าสนใจ
