พลาสติกมักถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาที่ก่อให้เกิดวิกฤตทางสิ่งแวดล้อมมากมาย กระนั้นพลาสติกสามารถช่วยโลกได้ หากรู้จักเลือกใช้และจัดการอย่างถูกต้อง
เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่าปัญหาขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาระดับโลก จากทั้งการใช้พลาสติกล้นเกินจนก่อขยะพลาสติกมากมาย ปนเปื้อนไปทั่วผืนภพิภพตั้งแต่บนยอดเขาสูงสุด เรื่อยลงไปถึงหุบเหวใต้สมุทรสุดลึก กลายเป็นวิกฤตต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ด้วยวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ต้องพึ่งพาพลาสติกเป็นอย่างมาก พลาสติกอยู่รอบตัวเราทุกที่ ตั้งแต่ขวดน้ำไปจนถึงการปลูกถ่ายทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิต ด้วยตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตมนุษย์สมัยใหม่ต้องพึ่งพาพลาสติกในแทบทุกด้าน จึงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงชีวิตที่ปราศจากพลาสติก
ดังนั้นเราจึงควรมารู้จักพลาสติกกันให้อย่างถ่องแท้ ว่าวัตถุสิงเคราะห์ชนิดนี้ แท้จริงแล้วเป็นคุณอนันต์ต่อมนุษยชาติ หรือภัยมหันต์ต่อโลก
จุดกำเนิดความนิยมต่อพลาสติก
จากบทความของ ดร.Jennie O Loughlin นักวิจัยด้านความยั่งยืนวัสดุสังเคราะห์ประจำมหาวิทยาลัย Dublin City University ประเทศไอร์แลนด์ระบุว่า ในทศวรรษที่ 1860 หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม ความต้องการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มแซงหน้าทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และทำให้วัตถุดิบต่างๆ จากธรรมชาติ เช่น งาช้าง ไม้ และกระดองเต่า เริ่มขาดแคลนมากขึ้น สิ่งนี้สร้างความกังวลให้กับบริษัทผู้ผลิต และเป็นตัวเร่งให้มีการคิดค้นวัสดุชนิดใหม่ เพื่อนำไปใช้ผลิตสินค้าอุปโภคทั้งหลาย
หนึ่งในพลาสติกประเภทแรกของโลกคือพลาสติกเซลลูลอยด์ ซึ่งเป็นพลาสติกกึ่งสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจากเซลลูโลส ซึ่งเป็นองค์ประกอบทางเคมีธรรมชาติจากพืช พลาสติกกึ่งสังเคราะห์ชนิดนี้ไม่เพียงแต่ราคาถูกกว่าการงาช้างเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายกว่าและสามารถขึ้นรูปเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ง่ายกว่า ในไม่ช้า ทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นเด็ก กรอบแว่น ไปจนถึงฟิล์มถ่ายรูป ก็ล้วนผลิตจากเซลลูลอยด์
“ในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา สังคมโลกได้พึ่งพาการใช้พลาสติกที่ทำจากปิโตรเลียมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เพื่อความสะดวกเท่านั้น แต่ยังจำเป็นอีกด้วย เนื่องจากพลาสติกสามารถผลิตได้ครั้งละจำนวนมากๆ มีราคาถูก แถมมีความทนทาน และสามารถแปรรูปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทำให้เราพบพลาสติกตั้งแต่ ถุงน่องไนลอนของสุภาพสตรี ไปจนถึงหน้าต่าง Plexiglass บนเครื่องบิน” ดร.Loughlin กล่าว
เธอชี้ว่า การใช้งานทางการแพทย์สมัยใหม่อาจเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความจำเป็นของพลาสติก เพราะพื้นผิวพลาสติกไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของสาร อีกทั้งสะอาด สามารถผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเข้มงวดจนปลอดเชื้อ
ดังนั้นกระบอกฉีดยา ถุงมือผ่าตัด และแม้แต่พื้นผิวแข็งที่ใช้ตามโรงพยาบาลล้วนผลิตมาจากพลาสติก ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ชุด PPE ที่ทำจากพลาสติกจึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์จากการติดเชื้อ
นอกจากนี้ ความเข้ากันได้ทางชีวภาพของพลาสติกทำให้เหมาะสำหรับการปลูกถ่ายทางการแพทย์ เช่น การเปลี่ยนข้อสะโพกและขดลวดใส่หลอดลม ซึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทำจากพลาสติกเหล่านี้มีราคาต้นทุนที่ถูกกว่าวัสดุที่ทำจากโลหะมาก
ผลกระทบจากการใช้พลาสติกล้นเกิน
อย่างไรก็ตาม ดร. Loughlin ชี้ว่า พลาสติกทำให้สังคมก้าวหน้าในหลายๆ ด้าน แต่ผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตและการกำจัดพลาสติกกลับกลายเป็นประเด็นสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพลาสติกจะมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตยุคใหม่ แต่มีเรากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่สองประการเกี่ยวกับพลาสติก
“ปัจจุบันการผลิตพลาสติกคิดเป็น 7% ของการใช้น้ำมันทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายในปี 2593 ในอัตราปัจจุบัน การศึกษาของ OECD แสดงให้เห็นว่า 90% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของพลาสติกมาจากการผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ในขณะที่อีก 10% ที่เหลือมาจากการปล่อยพลาสติกที่หมดอายุการใช้งาน” เธอระบุ
พลาสติกกับการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ดร. Loughlin กล่าวว่า แม้ว่าพลาสติกซึ่งทำมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดูจะเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน แต่หลายงายวิจัยพบว่า การใช้พลาสติกบางชนิดสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น การใช้พลาสติกที่ทนทานและน้ำหนักเบาเป็นวัสดุในชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น พวงมาลัยและบังโคลน ช่วยลดน้ำหนักของรถยนต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงให้ดีมากขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การศึกษาโดย EPA ในสหรัฐอเมริกาพบว่าในปี 2021 การปล่อย CO2 จากยานพาหนะลดลง 23 % ตั้งแต่ปี 2004
เช่นเดียวกับ ฉนวนพลาสติกในบ้านและธุรกิจทำให้อาคารประหยัดพลังงานมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนด้านพลังงานด้วย
ในขณะที่บรรจุภัณฑ์พลาสติกของผลิตภัณฑ์อาหารสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการยืดอายุการเก็บรักษาอาหารและลดขยะอาหาร Project Drawdown ซึ่งเป็นองค์กรที่อุทิศตนเพื่อบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนะนำว่าการลดขยะอาหารมีความสำคัญมากกว่าการรีไซเคิลถึง 15 เท่าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุษยชาติ
ดร. Loughlin ชี้ว่า การเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นทดแทนพลาสติก การลดการพึ่งพาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและการใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ควบคู่ไปกับการวิจัยพลาสติกชีวภาพทางเลือกทดแทนพลาสติกที่แปรรูปมาจากน้ำมันดิบ จะช่วยให้เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากพลาสติก โดยไม่ก่อผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากเกินไป
“พลาสติกเป็นวัสดุที่ดีเยี่ยม มันสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ กลายเป็นส่วนสำคัญของสังคมยุคใหม่ที่เราขาดไม่ได้ แต่ด้วยวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ เราในฐานะสังคมจะต้องค้นหาแนวทางอื่นสำหรับพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและหาทางใช้และจัดการพลาสติกอย่างยั่งยืน” เธอกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี! นักวิทย์ฯ ดัดแปลงเอนไซม์ในแบคทีเรีย ช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติก
ชวนลด “ขยะอาหาร” แนะ 3 วิธีสุดสมาร์ต ปรับพฤติกรรมง่ายๆ เริ่มได้ทันที
ชวนลูกค้าคืนขวด “โค้ก” ให้เกิดเป็นขวดใหม่ บรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิล 100%
ข้อมูลจาก: RTE