หน่วยงานด้านชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรศาสตร์ รายงานว่าน้ำแข็งในขั้วโลกใต้หายไปมากจนน่าตกใจถึง 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร เทียบเท่าพื้นที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หายไปกว่าครึ่ง นักวิทยาศาสตร์กังวลว่านี่อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น
รายงานจาก National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) หรือหน่วยงานด้านชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรศาสตร์ เผยว่าเมื่อเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้มีปริมาณขอบเขตต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกาหายไปมากกว่า 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร หรือพื้นที่มากกว่าครึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
NOAA เผยว่าขอบเขตของน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 1981-2010 พบว่าสูญเสียพื้นที่น้ำแข็งไป 1 ล้านตารางไมล์ หรือ 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร ปรากฎการณ์นี้ถือว่าผิดปกติอย่างมาก เนื่องจากช่วงนี้ทวีปแอนตาร์กติกาเป็นฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ควรจะมีการสะสมของน้ำแข็งให้มากขึ้น แต่กลายเป็นว่าปริมาณน้ำแข็งมันหายไปอย่างน่าตกใจ
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ทำความรู้จัก ‘ร่างข้อบัญญัติพื้นที่สีเขียว’ สร้างอากาศดีๆ ให้ กทม.
7 ก.ค. 2566 วันนี้ โลกโคจรไกลดวงอาทิตย์มากที่สุดในรอบปี 152 ล้าน ก.ม.
Japan Airlines ผุดบริการ "ให้เช่าเสื้อผ้า" ช่วยผู้โดยสารลดสัมภาระ ลดโลกร้อน
โดยปกติแล้วน้ำแข็งจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4.5 ล้านตารางไมล์ หรือ 11.7 ตร.กม. และช่วงนี้จะเริ่มขยายตัวจนถึงขีดสุดที่ 7.1 ล้านตารางไมล์ (18.4 ล้าน ตร.กม.) ในช่วงกลางเดือนกันยายน ซึ่งตอนนี้มันกลับตรงข้ามปริมาณน้ำแข็งหายไปมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าจากพฤติกรรมอันไม่ปกติของน้ำแข็งในแอนตาร์กติก การสูญเสียน้ำแข็งในขั้วโลกใต้อย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อลักษณะภูมิประเทศของทวีปแอนตาร์กติกา ระบบนิเวศบริเวณขั้วโลกใต้ รวมถึงส่งผลกระทบกับ Climate Change ที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษากันให้มากขึ้น เนื่องจากขั้วโลกใต้มีความซับซ้อน ไม่เหมือนแถบอาร์กติกหรือขั้วโลกเหนือ ซึ่งการที่ทวีปแอนตาร์กติกาอยู่ห่างไกลจึงทำให้อาจยังไม่มีการศึกษาและเข้าพื้นที่นั้นมากเท่าควร
ที่มา : Live Science / Discover Magazine