SHORT CUT
นาทีนี้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด "สงครามตะวันออกกลาง" ศึกระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล ปะทุขึ้นอีกครั้งท่ามกลางทั่วโลกต่างจับตา เสี่ยงไทยน้ำมันแพง กระทบประชาชนฉุดเศรษฐกิจไทย
สงคราม อิหร่าน-อิสราเอล ปะทุขึ้นอีกครั้งท่ามกลางทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด ล่าสุด อิหร่านเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศช่วงผ่านมา ได้ยิงโดรนไปยังพื้นที่เป้าหมายในประเทศอิสราเอล แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีต่อราคาน้ำมันแน่นอน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจของผู้คนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
ล่าสุดสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลต่อการที่อิสราเอลอาจโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่มีรายงานข่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กำลังหารือกับอิสราเอลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน
ด้านนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของน้ำมันในประเทศ และทำให้มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ อย่างไรก็ตามหากการโจมตีดังกล่าวทำให้ผู้ค้าน้ำมันเกิดความกังวลเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซ และมีการเพิ่มค่าพรีเมียมความเสี่ยงเข้าไปในราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นถึงราว 8% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความวิตกต่อการที่อิสราเอลอาจโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่านเพื่อตอบโต้ต่อการที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกถล่มอิสราเอล
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สงครามที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ กระทบเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และจะส่งผลต่อราคาน้ำมันโลกที่อาจจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ 100 เหรียญ/บาร์เรล อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งทางเรือที่อาจทำให้ล่าช้า และมีต้นทุนในการขนส่งเพิ่มขึ้นไปที่ 12,000 เหรียญ/ตู้คอนเทนเนอร์ หากไตรมาสสุดท้ายสงครามยังรุนแรงอาจทำให้ฉุดการเติบโตของ GDP ไทยโตช้าลง
ด้าน กกร. ยังคงเป้า GDP อยู่ที่ 2.2-2.7% พร้อมจับตาสงครามตะวันออกกลางปะทุ หรืออาจบานปลายกดดันค่าระวางเรือ-ราคาน้ำมันพุ่ง ผู้ส่งออกห่วงระเบิดเวลาเศรษฐกิจไทยท้ายปี อย่างไรก็ตามหากน้ำมันราคาปรับสูงขึ้นแน่นอนว่าจะกระทบไทย ประชาชน และภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบ และหากรัฐบาลเข้ามาอุ้มราคาน้ำมันอีกในอนาคตจะส่งผลต่อสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 29 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา เงินกองทุนฯ ติดลบลดลง ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยเงินกองทุนฯ ติดลบทั้งสิ้นรวม -99,087 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -51,643 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,444 ล้านบาท
คืบหน้าล่าสุด สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกบน. ได้เรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันส่งเข้ากองทุนฯ ดังนี้ ดีเซลและดีเซล B20 ส่งเข้ากองทุนฯ 3.47 บาทต่อลิตร, ดีเซล เกรดพรีเมี่ยม ส่งเข้า 4.97 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 68.06 ล้านลิตรต่อวัน) กลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้า 4.60 บาทต่อลิตร,
และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร และเบนซินออกเทน 95 ส่งเข้า 10.68 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 31.55 ล้านลิตรต่อวัน)
ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าสงครามระหว่างอิหร่าน กับอิสราเอล จะรุนแรง และจะยืดเยื้อเพียงใด ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลมาถึงราคาน้ำมันในไทย กระทบต่อพี่น้องประชาชน และเศรษฐกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่องเทคโนโลยี อิสราเอล ประเทศที่ไฟสงครามระอุ แต่โดดเด่นเรื่องนวัตกรรม
หากสงครามโลกครั้งที่ 3 อุบัติ ประเทศไหน ‘อันตราย’ และ ‘ปลอดภัย’ บ้าง?
นายกฯ ให้ทูตประเมิน "สงครามอิสราเอล" เตือนคนไทยเตรียมพร้อมอพยพตลอดเวลา