สหรัฐฯ ยุติให้บริการข้อมูลมลพิษทางอากาศทั่วโลกตามคำสั่งรัฐบาลทรัมป์ เพื่อลดรายจ่าย นักวิทยาศาสตร์กังวลผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่อากาศแย่อย่างนิวเดลี
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ได้ยุติการส่งข้อมูลจากโครงการติดตามคุณภาพอากาศแบบเรียไลไทม์บนแอป AirNow ขององค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) แล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าคำสั่งจากฝ่ายบริหาร ‘รัฐบาลทรัมป์’ ในการลดรายจ่ายด้านสิ่งแวดล้อม
สหรัฐฯ ติดตามคุณภาพอากาศผ่านสถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2008 เพื่อให้ข้อมูลแก่ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ และยังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่แม่นยำ
เมื่อมีคำสั่งนี้ออกมาบรรดานักวิทยาศาสตร์แสดงความไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากนี่เป็นฐานข้อมูลด้านคุณภาพอากาศที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงนิวเดลีของอินเดีย ซึ่งเป็นเมืองที่เผชิญกับคุณภาพอากาศย่ำแย่อยู่ทุกปี
ย้อนกลับไปในปี 2014 จีนประกาศแบนแอปที่เผยแพร่ข้อมูลจากสถานทูตสหรัฐฯ ไม่นานก่อนที่จะมีการประชุมระดับนานาชาติ ซึ่ง ณ ตอนนั้นมี บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 44 เข้าร่วมด้วย
โดยเหตุผลที่จีนแบนก็คือ รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ที่สถานทูตสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลที่โชว์ให้เห็นว่าคุณภาพอากาศในจีนนั้นย่ำแย่เกินกว่าที่ทางการประเมินเอาไว้อย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมุมมอง เป็นเหมือนเหรียญสองด้าน
นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม เขาได้ตัดงบประมาณด้านความร่วมมือระหว่างประเทศและสิ่งแวดล้อม โดยให้เหตุผลว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายลดรายจ่ายของรัฐบาลและผลักดันมาตรการลดภาษีตามที่เคยให้สัญญาไว้
รัฐบาลทรัมป์ยังได้สั่งปิดสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือที่มีงบประมาณกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 900,000 ล้านบาท นอกจากนี้ เขายังลดจำนวนพนักงานในหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม และยกเลิกโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายโครงการที่ริเริ่มในสมัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดี
ที่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง