น้ำท่วมรุนแรงในบราซิล มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 150 ราย ขณะที่น้ำท่วมทำลายสถิติทำลายเมืองต่างๆ และทำให้หลายพันคนต้องละทิ้งบ้านเรือน อุทกภัยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนสนามบินใน ปอร์โต้ อเลเกร้ ต้องจมบาดาล
รันเวย์ที่สนามบิน ปอร์โต้ อเลเกร้( Porto Alegre) ทางตอนใต้ของบราซิล เจอพิษจากสภาพอากาศอันเลวร้ายฝนตกอย่างหนัก ราวกับอยู่ในฉาก นวนิยายคลาสสิกของโลก หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว (ที่ในนิยายฝนตก 3 ปี ไม่มีวันหยุด) และต้องจมอยู่ใต้บาดาล ไม่สามารถใช้การได้
นอกจากนี้ ฝนตกหนักในรัฐรีโอกรันดีโดซูล ทางตอนใต้ของบราซิล โดยข้อมูลของสำนักงานป้องกันพลเรือนระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 ราย ขณะที่น้ำท่วมทำลายสถิติทำลายเมืองต่างๆ และทำให้หลายพันคนต้องละทิ้งบ้านเรือน อุทกภัยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเกิดน้ำท่วมในเดือนกรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 75 ราย
ตามรายงานของหน่วยงานธรณีวิทยาของบราซิล น้ำท่วมในครั้งนี้นับเป็นน้ำท่วมใหญ่ที่สุดของบราซิลในรอบ 83 ปี นับตั้งแต่ปี 1941 โดยในบางเมืองมีระดับน้ำสูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกเมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว
คาดการณ์ว่าฝนจะยังคงตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์ และทำให้สถานการณ์ในภูมิภาครุนแรงขึ้นอีก
ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ ฟรานซิสโก เอลิซู อากิโน ให้ความเห็นว่า รีโอกรันดีโดซูลเป็นจุดบรรจบกันระหว่างของคลื่นความร้อนที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้หาสมุทรแปซิฟิกอุ่นขึ้นและทำให้เกิดฝนตกลงมาทางตอนใต้ของบราซิล แต่ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ทำให้เกิดพายุและน้ำท่วมที่รุนแรงในปีนี้
อีกทั้ง “ภาวะโลกร้อน” ยังทำให้การพยากรณ์อากาศทำได้ยากกว่าเดิมด้วย