svasdssvasds

กทม. เสี่ยงเป็นเมืองใต้น้ำใน 50 ปี แนะทำคันกั้นน้ำ ปรับผังเมืองมีฟังก์ชั่น

กทม. เสี่ยงเป็นเมืองใต้น้ำใน 50 ปี แนะทำคันกั้นน้ำ ปรับผังเมืองมีฟังก์ชั่น

กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในหลายๆ เมืองในโลกที่มีความเสี่ยงจมน้ำและมีการวิเคราะห์ว่าภายใน 50 ปี กทม. มีความเสี่ยงในการจมน้ำ คณะวิทย์ มธ. แนะเสริมแนวคันกั้นน้ำ ปรับผังเมืองให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานโดยที่ไม่ต้องทุบ รื้อ ถอน และการย้ายเมืองหลวงควรเป็นทางเลือกสุดท้าย

จากบทควิเคราะห์ของ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่ากรุงเทพฯ มีความเสี่ยงจมน้ำเช่นเดียวกับหลายเมืองในหลายประเทศทั่วโลก เช่น อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, อิยิปต์, อินโดนีเซีย, ไนจีเรีย, รัฐเท็กซัส รัฐฟลอริดา, รัฐลุยเซียนา, บังคลาเทศ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล แม่น้ำ ใกล้เส้นทางคมนาคมทางน้ำ ง่ายต่อการเดินทาง เป็นเส้านทางติดต่อค้าขายมาตั้งแต่อดีต

กทม. เสี่ยงเป็นเมืองใต้น้ำใน 50 ปี แนะทำคันกั้นน้ำ ปรับผังเมืองมีฟังก์ชั่น

ความเสี่ยงที่กรุงเทพฯ จะจมอยู่ใต้บาดาลนั้น สาเหตุมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการทรุดตัวของชั้นดินเฉลี่ย 2-3 เซนติเมตรต่อปี อีกทั้งยังมีน้ำทะเลหนุน และการสูญเสียน้ำใต้ดินจากการใช้น้ำบาดาลตั้งแต่ในอดีต และประเทศที่มีความเสี่ยงจมน้ำเช่นเดียวกันก็เร่งหาทางออก บางประเทศตัดสินใจย้ายเมืองหลวง อย่าง  อินโดนีเซีย​ ที่ย้ายเมืองหลวงจาก จาการ์ตา ไปจังหวัดกาลิมันตันตะวันออกบนเกาะบอร์เนียว ซึ่งการย้านเมืองหลวงอาจไม่ใช่การแก้ไขแรกๆ ในหลายประเทศเนื่องจากกระทบต่อประชาชนที่ต้องเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน และยังใช้งบประมาณสูงกับการจัดผังเมืองใหม่ สร้างอาคาร ที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณูปโภค

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะแนวทางแก้ไขการปรับผังเมืองที่ไม่ต้องทุบ รื้อ ถอน เพียงเน้นปรับผังเมืองให้มีฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยมี 3 แนวทาง ได้แก่

1. ลดพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชั้น 1 โดยใช้งานตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป เพื่อลดผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน

2. เพิ่มทางเดินลอยฟ้า หรือ Sky walk ที่เชื่อมจากอาคารออฟฟิศ เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรของผู้คนที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งวิธีนี้มีต้นทุนไม่สูงมากหากเทียบกับการรื้อผังเมืองเพื่อสร้างใหม่หรือการย้ายเมืองหลวง

3. เสริมแนวคันกั้นน้ำประสิทธิภาพสูง ไม่มีร่องฟันหลอตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา

ป่าชายเลนเป็นแนวกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล และจากการศึกษาของ คณะวิทย์ มธ. พบว่าแม้ที่ผ่านมาจะมีการปลูกป่าชายเลนมากขึ้นแต่พบว่าหลังจากปลูกแล้วไม่มีการดูแลติดตามผล และมีการใช้แปลงปลูกป่าชายเลนหลายแห่งเพื่อปลูกซ้ำ ซึ่งทำให้พื้นที่ป่าชายเลยไม่ได้เพิ่มขึ้น ในทางกลับกันบริเวณชายฝั่งถูกกัดเซาะเพิ่มขึ้นทุกปี

คณะวิทย์ มธ. แนะเรื่องปลูกป่าชายเลนให้เติบโต ดังนี้

  • สร้างจิตสำนึกความตระหนักรู้กับประชาชนว่า เมื่อปลูกแล้วต้องติดตามผล หมั่นดูแลการไหวเวียนของน้ำ และระบบนิเวศแปลงปลูก ซึ่งควรทำต่อเนื่อง
  • วัดผลจากพื้นที่ป่าชายเลนที่เพิ่มขึ้น แทนการวัดด้วยจำนวนต้นที่ปลูกใหม่
  • เสริมกิจกรรมการปักแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่น เพื่อเพิ่มเกราะป้องกันแนวป่าชายเลนที่ปลูกใหม่ ซึ่งทั้งการปลูกป่าชายเลนที่มีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการเสริมแนวไม้ไผ่กันคลื่นก่อนปะทะแนวป่าปลูกใหม่ จะช่วยลดผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่ง และลดความเสี่ยงน้ำทะเลหนุนได้อีกทางหนึ่ง

 

ที่มา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

related