ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมทรัพยากรธรณี ให้ "วาฬบาลีนอพเทอรา อีดีไน" อายุราว 3,380 ปี ที่พบในจ.สมุทรสาครเมื่อปี 2563 เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 141 ชิ้นตัวอย่าง
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกรมทรัพยากรธรณีเมื่อ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เรื่อง ให้ซากดึกดำบรรพ์เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 26 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 และข้อ 4 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การประกาศเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนและเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การประกาศเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนและเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ประกาศให้ซากดึกดำบรรพ์ของวาฬ รหัสประจำซากดึกดำบรรพ์ THF 2565 100324 ถึง THF 2565 100464
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชื่อซากดึกดำบรรพ์ "บาลีนอพเทอรา อีดีไน" (Balaenoptera edeni) ชื่อสามัญ Bryde's whale (วาฬบรูด้า) อายุ โฮโลซีนตอนปลาย 3,380 + 30 ปี จำนวน 141 ชิ้นตัวอย่าง
สำหรับ "ซากดึกดำบรรพ์วาฬบรูด้า" สถานที่พบ บ้านคลองหลวง ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ผู้ค้นพบคือ นายจิตติ วัฒนสินธุ์ ค้นพบเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เจ้าของ/หรือผู้ครอบครอง บริษัท ไบรท์ บลู วอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มอบให้กับกรมทรัพยากรธรณี เพื่อนำไปศึกษาวิจัย โดยเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน 2565
ก่อนหน้านี้นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี (ดำรงตำแหน่งในช่วงที่มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์วาฬบรูด้า เมื่อปี 2563) เคยระบุว่า การพบโครงกระดูกวาฬบนแผ่นดินห่างจากชายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร จะเป็นหลักฐานสำคัญบ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน สามารถศึกษาประวัติ วิวัฒนาการของวาฬ และสัตว์ทะเลในอดีต และเห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆร่วมกับวาฬ ภาพรวมใช้วิธีสำรวจด้วยการเจาะสำรวจศึกษาชั้นตะกอนดินและเทียบสัมพันธ์จะช่วยแปลความหมายถึงสภาพแวดล้อมในอดีต การหาขอบเขตชายทะเลโบราณในพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ศึกษาการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลในปัจจุบันและอนาคตที่มีผลจากปัจจัยทางธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยกรมทรัพยากรธรณีจะศึกษาวิจัยต่อไปในอนาคต
ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา