การปลูกป่าชายเลน เป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างน้อย มันช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้ ตอนนี้ไทยมีการตั้งเป้า ฟื้นฟูป่าชายเลน 3 แสนไร่ใน10ปี โดยตัวเลขที่ผ่านมา ป่าชายเลนช่วยสิ่งแวดล้อมมหาศาล เพราะมันดูดซับคาร์บอน 9.4 ตันต่อไร่ ต่อปี
ประเด็นเรื่องคาร์บอนเครดิต ประเด็นสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และจากการที่ ไทยได้ให้สัตยาบันสารเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และมีเป้าหมายที่จะลดก๊าซเรือนกระจกลง 20%-25% ภายในปี 2030 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ซึ่งการลดก๊าซเรือนกระจกที่ดีรูปแบบหนึ่ง คือ การปลูกป่าชายเลนเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้ดี
สำหรับประเทศไทย มีความพยายามจะขับเคลื่อนในเรื่องของการฟื้นฟูป่าชายเลน โดย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ตั้งเป้าฟื้นฟูป่าชายเลน 300,000 ไร่ภายใน 10 ปี โดยจะ เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก และคาดหมายว่าโครงการเหล่านี้ จะสร้างคาร์บอนได้กว่าปีละ 9.4 ตันต่อไร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เล็งฟื้นฟูป่าชายเลน 23 จังหวัดใน 10 ปี
โดย อภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ทช. ให้ความเห็นว่า การฟื้นฟูป่าชายเลน จะทำ ใน 23 จังหวัด ภายใน 10 ปี ( 2022-2031) อีกทั้งต้องการจะผลักดันให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาด้วยการเร่งฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดยที่ได้รับประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตจำนวนมหาศาลด้วย
สำหรับแนวทางนโยบายการฟื้นฟูป่าชายเลนนั้น มีออกมาจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) อาทิ
- การปลูกและบำรุงป่าชายเลนสำหรับองค์กรหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. 2565 พื้นที่เป้าหมายที่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขอรับพื้นที่ป่าชายเลนไปปลูกป่าเพื่อลดคาร์บอนเครดิต เพื่อรับมือกับมาตรการการค้ารูปแบบใหม่ ที่มีผลต่อการส่งอออกและเวทีการค้าระหว่างประเทศ
- จัดทำคู่มือการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการปลูกป่าชายเลนกับ กรม ทช. เพื่อให้การดำเนินงานปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และบรรลุเป้าหมายของทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ยัง เปิดโอกาส สนับสนุนเอกชนและภาคประชาชนในการร่วมกันสร้างป่าชายเลนได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดงบประมาณของรัฐในการฟื้นฟูป่าชายเลนอีกด้วย
• ป่าชายเลนดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 9.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อไร่ต่อปี
โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ในการจัดเก็บข้อมูลการประเมินคาร์บอนเครดิตสำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเดิมค่าคาดการณ์การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของป่าชายเลนเท่ากับ 2.75 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อไร่ต่อปี จึงได้มีการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของไม้สกุลโกงกาง (Rhizophara spp.) ในพื้นที่แปลงปลูกป่าชายเลนของประเทศไทย ดำเนินการโดยคณะทำงานเพื่อศึกษาศักยภาพการเก็บคาร์บอนของป่าชายเลน ซึ่งคณะทำงานเป็นบุคลากรจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับเกียรติจาก ศ.ดร. สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ (ISME) ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเพื่อปรับปรุง เพื่อใช้ข้อมูลอ้างอิงการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในป่าชายเลนของประเทศไทย
โดยมีการเก็บข้อมูลในพื้นที่ 4 โซน แบ่งออกเป็น โซนตะวันออก โซนอ่าวไทย ตัว ก โซนอ่าวไทย และโซนอันดามัน ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง สตูล กระบี่ และพังงา จำนวน 116 แปลง ใน 16 ชั้นอายุ (แปลงปลูกป่าชายเลนที่อายุ 7, 8, 9, 10, 12, 13, 14, 15, 16, 18, 19, 21, 27, 28, 29 และ 30 ปี) โดยผลการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของไม้สกุลโกงกาง (Rhizophara spp.) ในพื้นที่แปลงปลูกป่าชายเลนของประเทศไทย พบว่าป่าชายเลนสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 9.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อไร่ต่อปี
• ปลูกป่าชายเลนมีประโยชน์หลายมิติ
สำหรับโครงการปลูกป่าชายเลน หรือโครงการปลูกป่าอื่นๆ เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตนั้น คาดว่า จะสร้างประโยชน์หลายมิติ ทั้งเพิ่มพื้นที่ป่า เพิ่มความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และลดการตั้งกำแพงภาษีจากสหภาพยุโรป รวมถึงการสร้างรายได้ ประโยชน์ต่อชุมชนและประชาชน ให้สามารถประกอบอาชีพตามวิถีชุมชนในเขตป่าชายเลนได้ตามปกติ ส่วนขององค์กรภาคธรุกิจจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด มีสิทธิเพียงการคิดคำนวณคาร์บอนเครดิตเท่านั้น และต้องดูแลป่าที่ปลูกขึ้นใหม่ต่อเนื่องไปไม่น้อยกว่า 10 ปี
ในเวลาเดียวกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้เร่งขับเคลื่อนการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกสุทธิภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน จำนวนทั้งสิ้น 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2580
โดยมีมาตรการสำคัญ จากเจ้ากระทรวงฯ ได้แก่ การปลูกและฟื้นฟูป่าธรรมชาติ การปลูกป่าเศรษฐกิจ การเพิ่มพื้นที่พื้นที่สีเขียว และการป้องกันการบุกรุกป่าและเผาป่า