กรุงเทพ คือ เมืองที่ทำให้ผู้คนเสียเวลาบนท้องถนนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย โดยคิดเป็นเวลาเฉลี่ยมากถึง 67 ชั่วโมง! จากปัญหาการจราจรติดขัด จากรายงานของ INRIX บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลสภาพการจราจร และความปลอดภัยบนท้องถนน
5 อันดับ เมืองที่ผู้คนเสียเวลาบนถนนมากที่สุด ปี 2022 จากรายงานของ INRIX
1.ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้คนในเมืองนี้ ต้องเสียเวลา ที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 156 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 +5%) และมันส่งผลกระทบ ต่อต้นทุนพลังงานเฉลี่ยที่สูญเสียไปจากปัญหาการจราจร 1,377 ดอลลาร์สหรัฐ ความเร็วเฉลี่ยรถยนต์บนท้องถนนอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ราวๆ 10 ไมล์ต่อชั่วโมง) นอกจากนี้ ลอนดอน ยังครองแชมป์เมืองที่ผู้คนเสียเวลาบนถนนมากที่สุด เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันด้วย
2.ชิคาโก ประเทศสหรัฐฯ ชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 155 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 +49%) และการเสียเวลาบนท้องถนนแบบไม่จำเป็นเหล่านี้ มีต้นทุนพลังงานเฉลี่ยที่สูญเสียไปจากปัญหาการจราจร 2,618 ดอลลาร์สหรัฐ ความเร็วเฉลี่ยบนถนน 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
3. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 138 ชั่วโมง (ลดลงจากปี 2021 -1%) ความเร็วเฉลี่ยบนถนน 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
4.บอสตัน ประเทศสหรัฐฯ ชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 134 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 +72%) ต้นทุนพลังงานเฉลี่ยที่สูญเสียไปจากปัญหาการจราจร 2,270 ดอลลาร์สหรัฐ ความเร็วเฉลี่ยบนถนน 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5.โบโกตา ประเทศโคลัมเบีย ในอเมริกาใต้ มีชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 122 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 +30%) ความเร็วเฉลี่ยบนถนน 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนอันดับที่ 32 คือ กรุงเทพฯ ชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 67 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 +34%) ความเร็วเฉลี่ยบนถนนราวๆ 21 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (13 ไมล์ต่อชั่วโมง) ถือเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย เป็นรองเพียงแค่ เมือง อิสตันบูล ของประเทศตุรกี ซึ่ง มีชั่วโมงที่ต้องสูญเสียไปบนถนน 89 ชั่วโมง
อย่างที่ทราบกันดีว่า "เวลา" เป็นสิ่งที่มีค่า กับใครบางคน มันอาจจะเป็นสิ่งมีค่า ที่สุดในชีวิตเลยด้วยซ้ำ และ "เวลา" มันไม่เคยไหลย้อนกลับมาได้ ดังนั้น เวลาแต่ละนาที ที่ทุกคนสูญเสียไปบนถนน นั้น มันคงเป็น เรื่องที่น่าเสียดาย
สำหรับ “เวลาที่ต้องสูญเสียเมื่อคิดเป็นต้นทุน” นั้น เป็นการวิเคราะห์จากปัจจัยในเรื่องความล่าช้าในการขนส่ง, แรงกดดันจากเงินเฟ้อ, ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากปัญหาการจราจรติดขัด เพราะยิ่งใช้เวลาบนถนนนาน ก็ยิ่งมีการปล่อยมลพิษมากขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตผู้คนลดต่ำลง
ส่วนต้นทุน ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่กระโดดสูงขึ้นในปี 2022 ที่ผ่านมานั้น ปัจจัยหลักๆ มาจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกทั้งปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง ยังทำให้ผู้คนออกเดินทางด้วยรถยนต์มากขึ้นด้วย
ที่มา inrix