ยอด LINE MAN ชี้ Foodpanda ลาไทย จะเกิด 2 ขั้วในสมรภูมิเดลิเวอรี
เมื่อ Foodpanda ลาไทย! จะทำให้เกิดสองขั้วอำนาจในสมรภูมิเดลิเวอรี และอาจเปลี่ยนจาก ‘สงครามราคา’ สู่ ‘สงครามคุณภาพ’
เมื่อ Foodpanda โบกมือลาประเทศไทย สังเวียนฟู้ดเดลิเวอรีของไทยจึงพลันเข้าสู่ยุค "สองขั้ว" อย่างชัดเจน ดั่งที่ คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ได้ฉายภาพให้เห็น จากข้อมูลของ Redseer ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ปรากฏว่า LINE MAN นั้นยืนหยัดในฐานะผู้นำ ด้วยส่วนแบ่งตลาดจากจำนวนธุรกรรมถึง 44% ขณะที่ foodpanda แม้จะยังคงมีตัวตนอยู่บ้าง แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 5% เท่านั้น แม้จำนวนผู้เล่นจะลดลง แต่โครงสร้างตลาดโดยรวมยังคงทรงตัว การขับเคี่ยวจึงยังคงเข้มข้นในระดับเดิม
"Duopoly": สองขั้วอำนาจในสมรภูมิเดลิเวอรี
คำว่า "Duopoly" อาจฟังดูเทคนิค แต่แท้จริงแล้วหมายถึงภาวะที่ตลาดถูกครอบงำโดยผู้ขายเพียงสองราย ไม่ต่างอะไรจากคู่ชิงบัลลังก์โค้กกับเป๊ปซี่ในโลกน้ำอัดลม หรือแอร์บัสกับโบอิ้งในน่านฟ้าการบิน แม้จะดูเหมือนมีการแข่งขัน แต่ในความเป็นจริง ผู้เล่นทั้งสองมักจะกุมอำนาจเหนือตลาด จนผู้เล่นรายเล็กยากที่จะแทรกตัว โครงสร้างตลาดจึงมีลักษณะคล้ายกึ่งผูกขาด
ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ อาจนำไปสู่จุดเปลี่ยน จาก "สงครามราคา" อันดุเดือด สู่ "สงครามคุณภาพ" ที่น่าจับตา เมื่อผู้เล่นที่เหลือสามารถหันมาสร้างสมดุลระหว่างคุณภาพของอาหาร บริการที่ประทับใจ และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ย่อมเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน และมีทรัพยากรเพียงพอที่จะทุ่มเทให้กับการพัฒนาบริการใหม่ๆ
ผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้เกี่ยวข้อง
ในมุมของผู้บริโภคนั้น ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก ตราบใดที่ยังมีตัวเลือกในการใช้บริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LINE MAN Wongnai ที่ปัจจุบันนี้ได้ขยายขอบเขตการให้บริการครอบคลุมทั่วทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโยกย้ายแพลตฟอร์มได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่พลาดโอกาสในการเข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่นที่คุ้นเคย
ด้วยการถอนตัวของ foodpanda ทำให้ LINE MAN Wongnai กลายเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่สามารถให้บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และเพื่อรองรับฐานผู้ใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ LINE MAN Wongnai ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย ทำให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มใหม่ได้อย่างไม่ติดขัด
หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือระบบแปลภาษาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ที่สามารถแปลข้อความทั้งหมดในแอปพลิเคชันเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ชื่อร้านอาหาร รายละเอียดเมนู ไปจนถึงข้อความแชทที่ใช้สื่อสารกับไรเดอร์ ลูกค้าชาวต่างชาติสามารถพิมพ์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ และระบบจะทำการแปลภาษาโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีสติกเกอร์ภาษาอังกฤษจาก LINE MAN ที่ช่วยให้การสื่อสารกับไรเดอร์เป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ประโยคยาวๆ อีกต่อไป ทำให้ลูกค้าต่างชาติสามารถสั่งอาหารร้านท้องถิ่นใกล้ที่พัก หรือสตรีทฟู้ดชื่อดังทั่วทุกภูมิภาคของไทยได้อย่างสะดวกสบาย
ขณะเดียวกัน เรื่องผลกระทบหลัก คือกลุ่มไรเดอร์และร้านค้าบางส่วนที่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์ม LINE MAN Wongnai จึงเตรียมความพร้อมรองรับกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสร้างรายได้และไม่เกิดภาวะว่างงานหรือธุรกิจสะดุดชั่วคราว”
LINE MAN Wongnai: พร้อมเป็นแรงหนุน
LINE MAN Wongnai ได้แสดงความพร้อมที่จะเป็นแรงสนับสนุนให้กับทั้งไรเดอร์และร้านค้า เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยมีมาตรการที่น่าสนใจดังนี้
สำหรับไรเดอร์: บริษัทกำลังพิจารณาเปิดรับสมัครไรเดอร์เพิ่มเติมในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ foodpanda เคยให้บริการ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการว่างงานที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับร้านค้า: ร้านค้าที่เคยอยู่ภายใต้ foodpanda สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ LINE MAN ได้ทันที ผ่านช่องทางที่เตรียมไว้ พร้อมทั้งนำเสนอเงื่อนไขพิเศษสำหรับร้านค้าใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวและเริ่มต้นการขายได้อย่างราบรื่น
ก้าวสู่ผู้นำเดี่ยว พร้อมขยายฐานลูกค้า
