การตัดไม้ในป่าแอมะซอนทุบสถิติ เดือนมกราคม 2022 ได้ทำลายพื้นที่ป่ามากกว่าเดือนมกราคมปีที่แล้วถึง 5 เท่า ทำนักสิ่งแวดล้อมวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลบราซิลทันที
จำนวนต้นไม้ที่ถูกโค่นล้มลงในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ทุบสถิติปริมาณตัดต้นไม้มากกว่าในเดือนเดียวกันเมื่อปี 2021 แล้ว อ้างอิงข้อมูลจากดาวเทียมรัฐบาล
แน่นอนว่าป่าแอมะซอนถือเป็นป่าที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเปรียบเสมือนปอดของเรา เพื่อธำรงไว้ซึ่งสิ่งมีชีวิต แต่พื้นที่แห่งนี้กลับกำลังถูกทำร้ายโดยการละเลยและผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อเม็ดเงิน ปอดของเรากำลังขุ่นมัว ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับต้นปี
รายงานจากรัฐบาลเผยว่า พื้นที่ที่ถูกทำลายนั้นใหญ่กว่าปี 2021 ถึง 5 เท่า ซึ่งเป็นยอดรวมสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมาเมื่อปี 2015 เป็นใครจะอยู่เฉยล่ะ จริงไหม นั่นจึงทำให้นักสิ่งแวดล้อมออกมากล่าวหาและวิพาร์กวิจารณ์ประธานาธิบดีซาอีร์ โบลโซนาโร (Jair Bolsonaro) ของบราซิลว่าเขาเป็นผู้อนุญาตให้มีการตัดไม้ทำลายป่าเร็วขึ้น ซึ่งวีรกรรมของประธานาธิบดีคนนี้โชกโชนมากในเรื่องของการปล่อยให้หลายบริษัทเข้ามาลงทุนกับป่าแอมะซอน
แม้ว่าในการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ COP26 ในเมืองกลาสโกว์เมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลมากกว่า 100 ประเทศให้คำมั่นที่จะหยุดและยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2030 แต่ยอดของการตัดไม้ในแอมะซอนกลับสูงขึ้นสวนทางกับประชาคมโลก
การปกป้องแอมะซอนเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการที่จะจัดการหรือแก้ไขปัญหาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือลดโลกร้อน ต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ถูกโค่นนั่นถูกนำไปทำฟืน และเตรียมพื้นที่ว่างสำหรับการเตรียมทำเกษตรกรรม เตรียมปลูกพืชผลเพื่อจัดหาบริษัทอาหารระดับโลกมาลงทุน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาไฟไหม้ป่าทำให้สูญเสียพื้นที่ป่าเพิ่มไปอีก รวมทั้งคร่าชีวิตสัตว์ไปอีกเป็นล้านๆชีวิต
นักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ข้อมูลจากดาวเทียมล่าสุดจากหน่วยงานอวกาศของบราซิล Inpe ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลบราซิลในการปกป้องป่าฝนขนาดใหญ่ “ข้อมูลใหม่ยังเผยให้เห็นอีกครั้งว่าการกระทำของรับบาลขัดแย้งกับแคมเปญ Greenwashing” Cristiane Mazzetti จากกรีนพีซของบราซิลอธิบาย
กรีนพีซเรียกร้องให้ซูปเปอร์มาเก็ตในสหราชอาณาจักรและที่อื่นๆเลิกจ้างซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอน จากซัพพลายเออรืในห่วงโซ่อาหารเนื้อสัตว์และนม ที่มาจากอุตสาหกรรมเกษตรในบราซิล การตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดขึ้นใหม่นี้ครอบคลุมพื้นที่ 430 ตารางกิโลเมตร ในเดือนมกราคม มากกว่า 7 เท่าของแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ก
การตัดไม้จำนวนมากในช่วงต้นปีถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากฤดูฝนมักจะทำให้คนตัดไม้ไม่สามารถเข้าถึงป่าทึบด้านในได้ แต่ตอนนี้ก้มากเกินไปกับปริมาณการโค่นต้นไม้ที่มากเกินไปจนแทบจะกลายเป็นหายนะ
ป่าฝนอันกว้างใหญ่ของบราซิลดูดซับก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาสาลจากชั้นบรรยากาศที่แหล่งกำเนิดมาจากทั่วโลก ป่าทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน แต่ยิ่งมีการตัดไม้ทำลายป่ามากเท่าไหร่ ป่ากิย่งดูดซับมลพิษได้น้อยลงเท่านั้น
นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นบ้านของชุมชนอีกมาก ที่กล่าวว่าพวกเขาต้องการใช้ป่าไม้เพื่อทำเหมืองและเกษตรกรรมเชิงพาณิชย์เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในขณะเดียวกัน ชุมชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแอมะซอนก็ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องป่าฝนและวิถีชีวิตของพวกเขา
นายโบลโซนาโรได้ลดการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสำหรับภูมิภาคนี้ลง และให้เหตุผลว่ารัฐบาลควรใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อลดความยากจนของประชาชนในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป่าอเมซอน สูญเสียพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 22% ในรอบปี เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี
บราซิลสูญเสียพื้นที่ป่าอเมซอนเทียบเท่ารัฐเท็กซัสและนิวเม็กซิโกรวมกัน
20 ปีที่ผ่านมา กรีนแลนด์สูญเสียแผ่นน้ำแข็งมากพอที่จะทำให้น้ำท่วมสหรัฐฯ
ข่าวช็อกโลกในอดีต ความเสียสละของชายคนหนึ่งนำมาซึ่งการตื่นตัวในการรักษาป่าแอมะซอน
ในเดือนธันวาคมปี 1988 นักกรีดยางชาวบราซิลและยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ชิโก เมนเดส คาดการณ์ไว้ว่าเขาจะไม่อยู่ที่นี่จนถึงวันคริสต์มาสนี้ ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาต่อสู้เพื่อปกป้องต้นยางพารา ต่อมาเขาต้องต้อสู้เพื่อป่าแอมะซอน แต่ในตอนนี้เขาตระหนักได้ว่าเขาต้องต่อสู้เพื่อมวลมนุษยชาติ
เมนเดสเผยว่า เขาได้รับข้อความขู่ฆ่ามาเป็นปี พวกเขาพยายามส่งมือปืนมาป้วนเปี้ยนแถวบ้านของเขาอยู่เสมอ เพราะเมนเดสต่อต้านเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์อย่างเปิดเผยและสนับสนุนสิทธิมนุษยชนพื้นเมืองในลุ่มน้ำแอมะซอน ชาวบราซิลต้องช่วยกันปกป้องป่าที่มีความหลากหลายทางชีวิภาพมากที่สุดในโลกเอาไว้ อย่าทำลาย และเราคือมนุษย์ เราจะทำลายพวกเราเองไม่ได้ เขากล่าว
3 วันก่อนคริสต์มาส 1988 เมนเดสถูกยิงเสียชีวิตโดยลูกชายเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์เป็นคนสังหาร เรื่องนี้กลายเป็นข่าวช็อกโลกอยู่พักหนึ่ง จนหลังจากสภาคนกรีดยางแห่งชาติทราบเรื่องการลอบสังหารก็ได้รับข้อร้องเรียนให้ปกป้องรักษาป่าแอมะซอน เพื่ออัตลักษณ์ความเป็นชาติบราซิลและคุณค่าของเราชาวบราซิลเองเราจะเป็นพันธมิตรต่อกัน
ตั้งแต่ที่เมนเดสเสียชีวิต ป่าแอมะซอนก็ถูกทำลายมากขึ้น ซึ่งตอนนี้จากผลจากการสังเกตและเก็บข้อมูลพบว่าพื้นที่ป่าได้หายไปกว่า 1 ล้านตารางกิโลเมตรแล้ว เทียบเท่ากับรัฐเท็กซัสรวมกับนิวเม็กซิโกเลยทีเดียว และก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่บราซิลที่เดียว มันยังลุกลามไปยังประเทศเปรู โคลัมเบีย เวเนซูเอลา ซูรินาม กายอานา และเฟรนช์เกียนา ที่เป็นป่าเชื่อมต่อร่วมกับป่าอเมซอน ซึ่งสูญหายไปกว่า 200,000 เอเคอร์ต่อวัน หรือเทียบกับสนามฟุตบอล 40 สนามต่อนาทีนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่เมนเดสกล่าวไว้และเป็นจริงคือ มวลมนุษย์กำลังจะล่มสลายแน่นอน เพราะป่าแอมะซอนคือปอดที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมไปถึงช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของทั้งโลกไว้ เพื่อให้เราได้มีออกซิเจนหายใจอยู่ทุกวันนี้ หากปอดเราเสียหายต่อให้เยียวยาขนาดไหนก็อาจไม่ทันกาลได้
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับป่าแอมะซอนได้ที่ >>> บราซิลสูญเสียพื้นที่ป่าอเมซอนเทียบเท่ารัฐเท็กซัสและนิวเม็กซิโกรวมกัน
ทุกๆปี เราสูญเสียป่าแอมะซอนไปหลายพันตารางกี่โลเมตร ความหลากหลายทางชีวภาพก็ลดลง ไฟป่าก็ยังคงเกิดถี่ขึ้น สภาพดินเสื่อมโทร สัตว์ป่าเริ่มล้มตายเพราะที่หากินหายไป รวมไปถึงเป็นพื้นที่สุดท้ายของสัตว์บางชนิดที่ได้สูญพันธุ์ไปภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะพวกมันไม่มีบ้านให้อยู่ รวมไปถึงชนเผ่าพื้นเมืองเริ่มลำบาก
ทั้งหมดนี้คือปัญหาของพื้นๆเดียว นั่นคือแอมะซอน ผู้ปล่อยออกซิเจนมาให้เราได้หายใจกันอยู่ทุกวันนี้ และดูดซับมลพิษจากทั่วโลกเพื่อรักษาสุขภาพของมนุษย์ แต่วันนี้ที่แห่งนี้กำลังถูกกัดกินโดยนายทุนและมนุษย์อย่างหนักและสาหัส จนนักวิชาการหลายคนมองว่า คงหวนกลับแบบเดิมได้ยากแล้วแหละ นักวิชาการหลายคนพร้อมใจกันกล่าวโทษผู้นำว่า ไม่เคยทำอะไรได้เด็ดขาดจริงจังสักที และเรียงลำดับความสำคัญไม่เป็นจงอย่าลืมว่าทุกการกระทำของคุณ จะถูกจับตาจากทั่วโลกเสมอ
ที่มาข้อมูล