20 ปีที่ผ่านมา กรีนแลนด์สูญเสียแผ่นน้ำแข็งมากพอที่จะทำให้น้ำท่วมสหรัฐฯ

ขนาดฤดูร้อน เราเองซึ่งเป็นมนุษย์ยังบ่นร้อนกันเลย แล้วโลกล่ะ ร้อนเป็นหรือเปล่า สิ่งที่โลกจะส่งสัญญาณให้เรารู้ว่าร้อนหรือไม่นั้น มีมานานแล้ว แต่เราไม่เคยสนใจสุขภาพความเป็นอยู่ของโลกใบนี้กันเลย พอโลกเริ่มไม่ไหว เราถึงจะเริ่มมองเห็นเพราะมันดันกระทบกับความเป็นอยู่ของเรา แม้ว่าตอนนี้คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นั้นสาหัสขนาดไหน งั้นนี่อาจจะเป็นข่าวที่อาจทำให้คุณตระหนักขึ้นได้บ้าง เพราะนี่คือสัญญาณที่โลกพยายามบอกกับเราเสมอมา

เมื่อไม่นานมานี้ มีการรายงานว่า อาร์กติกร้อนขึ้นเร็วกว่าที่ใดๆในโลก ตามข้อมูลดาวเทียมที่รวมรวมโดย Polar Portal ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันวิจัยของรัฐบาลเดนมาร์ก 4 แห่ง ซึ่งพวกเขากล่าวว่า กรีนแลนด์ได้สูญเสียน้ำแข็งไปแล้วกว่า 5,100 พันล้านตัน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หรือปริมาณเพียงพอที่จะทำให้น้ำทั่วมทั้งสหรัฐอเมริกาได้เลยทีเดียว โดยน้ำจะท่วมสูงประมาณ 0.5 เมตร

หากยังมองว่ามันรุนแรงไม่มากพอ เพราะยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่รู้ไหมว่าการสูญเสียปริมาณน้ำแข็งดังกล่าวนั้นมีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นครึ่งนิ้ว (1.2 เซนติเมตร) ในเวลาเพียงสองทศวรรษที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อัพเดตอุณหภูมิโลก 141 ปีผ่านไป โลกร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

• ปี 2021 ร้อนสุดอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์ ร้อนขึ้นต่อเนื่อง 45 ปีติดแล้ว

• สรุปการย้ายเมืองหลวงของอินโดนีเซีย และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

• Red Code! อุณหภูมิโลกกำลังสูงขึ้น กทม.จะจมน้ำจริงไหม? Story of Green Ep.2

• บราซิลสูญเสียพื้นที่ป่าอเมซอนเทียบเท่ารัฐเท็กซัสและนิวเม็กซิโกรวมกัน

การเก็บข้อมูลของทีมงานวิจัยครอบคลุมระยะเวลากว่า 20 ปี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2002 ถึงเดือนสิงหาคม 2021 และอิงจากการสังเกตการณ์ของดาวเทียม Gravity Recovery And Climate Experiment (GRACE) ซึ่งได้เปิดตัวในเดือนมีนาคมา 2002 ดาวเทียมเหล่านี้วัดการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายมวลทั่วโลกเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการประมาณการเปลี่ยนแปลงของมวลน้ำแข็ง

ข้อมูลของ GRACE แสดงให้เห็นว่าการสูญเสียน้ำแข็งของกรีนแลนด์นั้นรุนแรงที่สุดในบริเวณชายฝั่ง ซึ่งน้ำแข็งจะบางลงอย่างรวดเร็วและตกลงสู่มหาสมุทร การสูญเสียน้ำแข็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนชายหาดเวสต์กรีนแลนด์ และยิ่งเป็นบริเวณที่มีน้ำอุ่นไหลเวียนใต้ดิน ซึ่งมีส่วนทำให้น้ำแข็งละลายเร็สมากขึ้นตามรายงานของ NASA (ภารกิจ GRACE เป็นโครงการร่วมของ NASA และ German Aerospace Center)

น้ำแข็งละลายในกรีนแลนด์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามรายงานของ NASA ขณะนี้กรีนแลนด์อยู่ในเส้นทางที่จะมีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้น 3-5 นิ้ว ภายในปี 2100 จากการศึกษาในปี 2019 ในวารสาร Nature ซึ่งอาจส่งผลที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น

แอนดรูว์ เชพเพิร์ด (Andrew Shepherd) หัวหน้าทีมวิจัยและนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลีดส์ในสหราชอาณาจักร บอกกับ NASA ว่า “ตามกฎง่ายๆสำหรับทุกเซนติเมตรที่เพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลโลก ผู้คนอีก 6 ลานคนต้องเผชิญกับน้ำท่วมบริเวณชายฝั่งทั่วโลกในปี 2019”

“จากแนวโน้มปัจจุบันการละลายของน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะทำให้ผู้คน 100 ล้านคนถูกน้ำท่วมในแต่ละปีในสิ้นศตวรรษ โดยรวม 400 ล้านคน เนื่องจากน้ำทะเลสูงขึ้น”

กรีนแลนด์มีแผ่นน้ำแข็งถาวรเพียงแผ่นเดียวในโลกที่อยู่นอกทวีปแอนตาร์กติกา กรีนแลนด์และแอนตาร์กติการวมกันเป็น 99% ของแหล่งน้ำจืดทั้งหมดของโลก หากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลาย อาจทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นถึง 24 ฟุต (7.4 เมตร) ในขณะเดียวกัน ทวีปแอนตาร์กติกามีน้ำแข็งเพียงพอที่จะเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกได้มากกว่า 60 เมตร หากละลายจนหมด ตามข้อมูลของศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติ

ผลกระทบของการละลาย ไม่เพียงแต่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสัตว์เล็กใหญ่ที่อาศัยอยู่บนกรีนแลนด์หรือทั่วโลกก็ตาม เพราะเมื่อภัยเหล่านี้เกิดขึ้นเร็วเท่าไหร่ บ้านของพวกมันก็จะหายไปเร็วเท่านั้น รวมไปถึงอาหารการกินและการเจริญเติบโต

ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลนั้น เกิดขึ้นมาสักพักใหญ่แล้ว กับวิกฤตภาวะโลกร้อนที่ทำให้โลกร้อนขึ้น จนน้ำแข็งขั้วโลกละลาย และทาง Springnews เองได้นำเสนอ เรื่องราวของการคาดการณ์พื้นที่น้ำท่วมในอนาคตจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตามอ่านได้ที่ >>> อัพเดตอุณหภูมิโลก 141 ปีผ่านไป โลกร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งที่อาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน แม้ว่าเราจะยังไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน แต่หมีขั้วโลก เพนกวิน และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งกับพวกเรา พวกเขานั้นกำลังขาดแคลนอาหาร วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยน อาหารก็หายากขึ้น ลูกน้อยที่ต้องดูแล บ้านไม่อบอุ่นเช่นเดียวอีกต่อไป จะอพยพไปที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะพวกเขาเกิดมาเพื่ออยู่ที่นี่เท่านั้น เราต้องร่วมช่วยกันให้สัตว์เหล่านี้กลับมาดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปได้อย่างยาวนานและยั่งยืน เพื่อธรรมชาติที่สมดุล

ที่มาข้อมูล

https://www.livescience.com/greenland-ice-loss-cover-united-states