Facebook สู่ Meta สุชัชวีร์ สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Mark Zuckerberg
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ยกการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ Facebook สู่ Meta สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Mark Zuckerberg
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์ถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จาก Facebook สู่ Meta สรุป จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราเรียนรู้อะไรบ้าง ดังต่อไปนี้
จาก Facebook สู่ Meta ความ "กล้า" ที่จะเสี่ยงของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
ไม่ว่าจะองค์กรไหน บริษัทใด หรือประเทศใด เคยประสบความสำเร็จขนาดไหน แต่ถ้ายึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง อนาคตเจ็บหนัก แถมสูญพันธุ์แน่นอน!!
พี่เอ้ขอตอกย้ำแนวคิดนี้ ยกตัวอย่าง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ เฟซบุ๊ก (Facebook) ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ภาษากรีก แปลว่า ล้ำหน้า แต่ไม่ได้เปลี่ยนแค่ชื่อนะครับ แทบจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ประกาศชัด เราจะไม่เป็นเพียงบริษัทโซเชียลมีเดียอีกต่อไป แต่เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลง เชื่อมผู้คนทั้งโลกด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า นำโลก Metaverse สู่โลกแห่งความเป็นจริง ให้คนสามารถทำงาน สื่อสารกันได้ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงผ่าน Virtual Reality (VR)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
Metaverse เทคโนโลยีพลิกโลกสุดล้ำ จากเฟซบุ๊กที่จะพาก้าวสู่โลกเสมือนจริง
-
Facebook เปลี่ยนชื่อใหม่ “Meta” เดินหน้าเทคโนโลยีดิจิทัลเสมือนจริง
-
รู้จัก เมตาเวิร์ส Metaverse ผ่านหนัง Ready Player One ของสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก
สรุป จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราเรียนรู้อะไรบ้าง
1. เห็นไหมครับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ใช้วิธีการ “ต้องพูดก่อนทำเสมอ” ในการบริหารงานยุคใหม่ เพราะเป็นการ สร้างคำมั่น สร้างพลังให้ทั้งตัวเอง และพนักงานในองค์กร ประกาศออกไปแล้ว ต้องทำให้ได้ เปลี่ยนโลกทั้งใบให้ได้ (อีลอน มัสก์ ก็ใช้วิธีเดียวกันเป๊ะ!)
ดังนั้นเราเอาวิธีคิดนี้มาปรับใช้หรือสอนลูกหลานไทยได้ครับ ให้เด็กกกล้าฝันไกล กล้าพูด จะเกิดการสะกดจิตตัวเอง มุ่งหน้าสู้ อย่างน้อยหากไม่ถึงเป้าหมาย แต่ไม่ย่ำอยู่กับที่แน่นอน
2. “คิดต่าง สร้างการเปลี่ยนแปลง” เลือกได้ครับ ว่าจะอยู่เฉยๆ เพื่อรอวันสูญพันธุ์ หรือจะอยู่อย่างมีคุณค่า โดยการคิดต่างสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้กับโลกและผู้คน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เป้าหมายต้องชัด วิสัยทัศน์ต้องเว่อร์ (มากๆ) เราต้องไม่กลัว และไม่ย่อท้อไปกับคำวิจารณ์ เพราะผลงานพิสูจน์ตัวเองเสมอ
3. “ยอมรับการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งต้องบอกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก (Facebook) ประสบความสำเร็จทั่วโลก หาก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ดึงดันทำโซเชียลมีเดียต่อไปก็ได้ (ยังไงก็รวย) แต่ไม่ครับ เขายอมรับว่าโลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างมีการทดแทนได้เสมอ เขาจึงไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้บริษัทไม่พัฒนา สุดท้ายก็ถูกคนอื่นแทนที่
4. ความคิด “ดักทางโลก” ไม่ใช่แค่สร้างเทคโนโลยี แต่ต้องเปลี่ยนแปลงโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ต้องจับต้อง ออกนอกจอได้!
เมื่อโครงการนี้สำเร็จ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เช่น เรียนออนไลน์ใกล้ชิดกับศาสตราจารย์ระดับโลก ทำงานข้ามทวีปข้างๆกัน นั่งในห้องประชุมเดียวกันผ่านโลกเสมือนจริง
ทุกการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก มีความเสี่ยง มีคนไม่เห็นด้วย (หรือต่อต้าน) แต่หากใช้ชีวิตไหลไปเรื่อยๆ คงเสี่ยงกว่าหลายเท่า เสี่ยงถึงสูญพันธุ์
เรามาช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลก กันดีไหมครับ ? เริ่มง่ายๆที่ตัวเราก่อนเลยครับ
