แพทย์สถาบันโรคผิวหนัง แนะนำวิธีป้องกันตัวเองจากโรคไฟลามทุ่ง โรคผิวหนัง ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนประชาชนป้องกันตัวเองจากโรคไฟลามทุ่ง โรคผิวหนัง ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำอย่าง ผู้สูงอายุ มีโอกาสเป็นได้ง่าย
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ทุกคนมีแบคทีเรียที่ผิวหนังด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งปนเปื้อนมาจากสภาพแวดล้อมทั่วๆ ไป จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาดของร่างกายในแต่ละบุคคล หากดูแลความสะอาดของร่างกายไม่ดี แบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนังก็พร้อมที่จะทำร้ายร่างกายของเราได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะโรคไฟลามทุ่ง ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด
โรคไฟลามทุ่งมักจะพบในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้ป่วยที่ได้รับยากินสเตียรอยด์ ยากดภูมิ มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ โรคไฟลามทุ่งมักเป็นที่ขา โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาขาบวมน้ำเหลือง เคยผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ และเคยผ่าตัดเส้นเลือดดำที่ขา เพราะการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลืองเสียไป
โรคไฟลามทุ่งมีโอกาสเป็นในผู้ที่มีสุขภาพปกติได้เช่นกัน โดยมักจะเป็นที่ใบหน้า จากสถิติจะพบในผู้ที่มีประวัติทำหัตถการเสริมความงามที่ใบหน้า
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ แนะนำวิธีการสังเกตอาการของโรคไฟลามทุ่ง ว่า หากผิวหนังมีลักษณะเป็นผื่นบวมแดง ปวดร้อน ตรงกลางผื่นอาจมีตุ่มน้ำใส หรือตุ่มหนอง บางรายอาจมีไข้ ปวดเมื่อยร่วมด้วย หากพบอาการเหล่านี้ สันนิษฐานทันทีว่าอาจจะเป็นโรคไฟลามทุ่ง ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
โรคผิวหนัง ชนิดนี้จำเป็นต้องรีบให้ยาปฏิชีวนะในการรักษา ผู้ป่วยขณะรักษาตัวต้องนอนพัก ยกแขนขาหรือส่วนที่เป็นโรคให้สูง เจาะระบายหนองในรายที่มีหนอง ล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือปลอดเชื้อ หากรักษาล่าช้าจะทำให้แบคทีเรียลุกลามเข้ากระแสเลือด อาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือรักษาแล้วอาจไม่หายขาด
วิธีการป้องกัน โรคไฟลามทุ่ง ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้