SHORT CUT
เปิดโปรไฟล์ 'สจ.จอย' พท.ส่งชิงนายก อบจ.ปราจีนบุรี ภรรยา 'สจ.โต้ง' เขย่าบัลลังก์ 'โกทร' สนามท้องถิ่นระอุเพื่อไทย VS ภูมิใจไทย
ชื่อของ สจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นหลังจากข่าวการเสียชีวิตของสามี สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ โดย สจ.จอย เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในสภา อบจ. ปราจีนบุรี และยังเป็นผู้ที่พรรคเพื่อไทยวางตัวให้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี
สจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน เป็นภรรยาของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ และมีบุตรด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ก่อนหน้านี้ สจ.จอย มีบทบาทในสภา อบจ. แต่ชื่อของเธอเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นหลังจากที่สามี เสียชีวิต
พรรคเพื่อไทยหนุน สจ.จอย ชิงเก้าอี้นายก อบจ. โดยพรรคเพื่อไทย วางตัว สจ.จอย ให้ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยมีการพูดคุยกันก่อนที่ สจ.โต้ง จะเสียชีวิต ด้าน สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคพร้อมสนับสนุน สจ.จอย หากเธอตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี แม้ว่าจะยังไม่ได้มีการพูดคุยกันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ แต่พรรคพร้อมรอความชัดเจนจาก สจ.จอย
กระนั้นเองก็ยังมีความกังวลของจาก สจ.จอย โดย สจ.จอย แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเธอและความเป็นธรรมในคดีการเสียชีวิตของสามี เนื่องจากคู่กรณีเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในจังหวัด เธอยื่นหนังสือร้องขอให้โอนคดีไปยังกองปราบปรามเพื่อให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
สจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน กำลังก้าวสู่เส้นทางการเมืองท่ามกลางความท้าทาย เธอต้องรับมือกับความเศร้าโศกจากการสูญเสียสามี ความกังวลด้านความปลอดภัย และแรงกดดันทางการเมือง ขณะเดียวกัน เธอก็ได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย อนาคตทางการเมืองของเธอจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สนามการเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศกำลังร้อนระอุ โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่าง “บ้านใหญ่” เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ที่ต่างงัดกล strategi ยึด “ฐานคะแนนจัดตั้ง” โดยมีเดิมพันใหญ่รออยู่ข้างหน้า คือ การชิงธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ในการเลือกตั้ง สส. รอบหน้า
เพื่อไทย ทีมทักษิณ หวังทวงคืนความยิ่งใหญ่ โดย “ทักษิณ” อดีตนายกฯ ในตำนาน ต้องการพิสูจน์บารมีและกระชับพลังให้พรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่ การเลือกตั้ง อบจ. จึงเป็นสนามสำคัญในการทดสอบพลัง โดย “ทักษิณ” ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรค
เห็นได้จากสนามเลือกตั้ง อบจ.อุบลราชธานี สมรภูมิเดือด โดย สนาม อบจ. อุบลราชธานี เป็นตัวอย่างการแข่งขันที่ดุเดือด “ทักษิณ” นำทัพลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร แต่คู่แข่งก็แข็งแกร่ง ทำให้ “ทักษิณ” ต้องลดระดับความมั่นใจ และเผื่อใจไว้หากพลาดท่า
ขณะที่ ภูมิใจไทย ค่ายเซราะกราว รุกหนักยึดพื้นที่ ภายใต้การนำของ “เนวิน” และ “อนุทิน” เดินเกมรุกคืบยึดพื้นที่ อบจ. โดยใช้ฐานคะแนนจัดตั้ง จนได้ชัยชนะในหลายจังหวัด เช่น นครสวรรค์, อุทัยธานี, อยุธยา, อ่างทอง, ปทุมธานี, ชัยภูมิ, สุรินทร์, ระนอง, นครศรีธรรมราช
ส่งผลต่อสนามเลือกตั้ง นายก อบจ. ปราจีนบุรี ชนวนเหตุสลดสะเทือนขวัญ เหตุการณ์ยิง สจ.โต้งในบ้าน “โกทร” นายก อบจ.ปราจีนบุรี ใครก็ทราบกันดีเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย โยงไปถึงการแข่งขันชิงเก้าอี้อบจ. ระหว่าง ภูมิใจไทย กับ เพื่อไทย
สะท้อนให้เห็นว่าการเมืองโบราณ ฐานคะแนนจัดตั้ง ยังใช้ได้ผล เห็นได้จากทั้ง เพื่อไทย และ ภูมิใจไทย ต่างใช้ “ฐานคะแนนจัดตั้ง” เป็นอาวุธสำคัญ การเมืองรูปแบบนี้ ยังคงมีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้งสนาม อบจ. เป็นเหมือนการซ้อมรบ ก่อนการเลือกตั้ง สส. ผู้ชนะในสนามนี้ จะได้เปรียบในการช่วงชิงอำนาจ ในเกมการเมืองระดับชาติต่อไป
การแข่งขันในสนาม อบจ. ระหว่าง เพื่อไทย และ ภูมิใจไทย ดุเดือดเลือดพล่าน “ทักษิณ” ต้องการนำเพื่อไทย กลับมายิ่งใหญ่ ขณะที่ ภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ “เนวิน” และ “อนุทิน” ก็ต้องการขยายฐานอำนาจ การต่อสู้ของ “บ้านใหญ่”คนละค่ายจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเมืองไทย ในอนาคต
อ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง